วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

SAM ย่อมาจาก Surface to Air Missile

++++++++++++++
SAM จรวด ต่อต้านอากาศยาน ( พื้น สู่ อากาศ )

มีมากมาย หลายแบบ หลายขนาด หลายค่าย หลายระยะยิง

ในที่นี้ ขอแค่แบบ เล็ก ๆๆ ประทับบ่ายิง นะครับ...

ระบบนำวิถี

- นำวิถี ด้วย แหล่งความร้อน อินฟาเรด
SA 7 , SA 14 , เรดอาย , สตริงเจอร์ , มิสทรัล (อันนี้ใหญ่หน่อยกำกึ่งใช้ขาตั้งช่วยยิง )

- นำวิถี ด้วย แสงเลเซอร์
เช่น โบว์ไป้ป์ , RBS 70

SA 7
ซาร์ 7 มีหลายชื่อ แล้วแต่ ผลิตที่ ประเทศ อะไรครับ
แต่ในวงการทหารเรียกว่า ซาร์....

SA-7 ชื่อที่ทาง USA เรียกขาน
GRAIL ชื่อที่ทาง NATO เรียกขาน
9K32M Strela-2 ผลิตใน USSR เรียกขาน
HN-5 (Hongying 5) ผลิตใน China เรียกขาน
Anza MKI ผลิตใน Pakistan เรียกขาน
Ayn as Saqr ผลิตใน Egypt เรียกขาน











Anza MKI



Ayn as Saqr


SA-14

RPG-7 คุณภาพไม่ได้วัดกันที่ราคา



RPG ย่อมาจาก
Ручной, Ručnoj.... [Hand-held]
Противотанковый, Protivotankovyi..... [Anti-Tank]
Гранатомёт, Granatomjët...... [Grenade Launcher]

RPG-7 มี แหล่งกำเนิดมาจากรัฐบาซัลท์ (Bazalt) ในประเทศรัสเซีย ช่วงปี 1960 จากความง่ายในการผลิตใช้งานทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศหลัง สิ้นสุดสงครามเย็นทำให้มีการขยายวงส่งไปยังหลาย ๆ ประเทศและความง่ายในการผลิต ทำให้ไม่สามารถรู้ถึงจำนวนที่แท้จริงในการผลิต หรืออย่างน้อยล้านชุดภายใต้การผลิตของ บาซัลท์ และมันยังมีราคาถูกกว่า โทรศัพท์มือถือที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้เสียอีก



จากที่ได้ทำการค้นคว้าศึกษามา อาวุธชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจาก Panzerfaust อาวุธ ต่อสู้รถถังของ เยอรมัน ในสมัยสงคราม WW II ในช่วงสงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามเหนือได้ใช้ RPG-7ในการต่อสู้กับทหารสหรัฐอเมริกา โดยใช้มันแทนปืนครก ปืนใหญ่สนาม

ในปี 1979 ในสงครามอัฟกานิสถานโดยมีกลุ่มนักรบมูจาฮีดีน ได้ทำการรบกับกองกำลัง USSR จึงทำให้กลุ่มนักรบมูจาฮีดีน สนใจ RPG-7 และได้พัฒนาเทคนิคการใช้หลายวิธี โดยนักรบ 1 กลุ่ม จะได้รับมอบ RPG-7 เป็นจำนวน 4 กระบอก ซึ่งจากการรบครั้งนี้กลุ่มมูจาฮีดีนสามารถใช้ RPG-7 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนมีชื่อเสียง

ใน ปี 1994 เดือนตุลาคม RPG-7 ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบ มาใช้ในการต่อสู้อากาศยาน แต่กลุ่มมูจาฮีดีนได้นำมาใช้ในการยิงเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกสหรัฐฯ เป็นผลทำให้ เครื่อง black hawk ของกองทัพบกสหรัฐฯ ตกลงใจกลางกรุง โมกานิชู ประเทศ โซมาเลีย ซึ่งภายหลังเรื่องราวนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์







จากอดีตถึงปัจจุบัน RPG-7 ได้รับการพัฒนาทางด้านหัวกระสุนรุ่นใหม่จากหัวรบแบบมาตรฐาน จนถึงหัวรบแบบ TBG-7v ทางสถาบันที่ รัฐบาซัลท์ โดย อนาโทลีโอบุคอฟ ผู้อำนวยการสถาบันในรัฐบาซัลท์ กล่าวในบทความในนิตยาสาร Military Parade

กระสุนระเบิดเพลิง TBG-7v มีอานุภาพ เท่ากับปืนใหญ่สนามขนาด 120 mm. มีอำนาจการทำลายในรัศมี 30 ฟุต หากยิงใส่ยานเกราะ จะส่งคลื่นความร้อนเพื่อสังหารทหารในยานเกราะนั้น ๆ



ชนิดหัวรบ ต่าง ๆๆ

Standard Russian Rpg-7 rounds all of which Iran makes equivalents of.

PG-7VL standard HEAT warhead for most vehicles and fortified targets (93 mm)

PG-7VR dual HEAT warhead for defeating modern heavily armored vehicles equipped with reactive armor (105mm)

TBG-7V thermobaric warhead for anti-personnel and urban warfare (105 mm)

OG-7V fragmentation warhead for anti-personnel warfare

รายนามครอบครัวที่ประจำการที่รัสเซีย

Anti-personnel explosives

- RPG-7V2 - Reloadable RPG launcher, TBG-7V thermobaric and OG-7V frag rockets

- RPG-27 "Tavolga" - One-shot disposable RPG launcher, RShG-1 thermobaric rockets

- RPG-29 "Vampir" - Reloadable RPG launcher, TBG-29 thermobaric rockets
Anti-tank explosives

- RPG-2 - Reloadable RPG launcher, the first variant of RPG launcher

- RPG-7V2 - Reloadable RPG launcher, PG-7VL with ~500 mm RHA penetration, PG-7VR with ~600 mm RHA penetration after ERA

- RPG-16 - Reloadable RPG launcher, PG-16 with ~300 mm RHA penetration, higher accuracy and four times the range of the RPG-7

- RPG-18 "Mukha (Fly)" - One-shot disposable RPG launcher, PG-18 with ~375 mm RHA penetration

- RPG-22 "Neto (Net)" - One-shot disposable RPG launcher, PG-22 with ~400 mm RHA penetration

- RPG-26 "Aglen" - One-shot disposable RPG launcher, PG-26 with ~500 mm RHA penetration

- RPG-27 "Tavolga" - One-shot disposable RPG launcher, PG-27 with ~750 mm RHA penetration after ERA

- RPG-29 "Vampir" - Reloadable RPG launcher, PG-29V with ~750 mm RHA penetration after ERA

- RPG-32 "Hashim" - Latest variant of RPG 105 mm Caliber, PG-32V with ~650 mm RHA penetration

RPG-7
น้ำหนักตัวปืน 7.9 kg.
น้ำหนักกระสุน 2.25 kg.
ระยะหวังผล 120 m.
ระยะยิงสูงสุด 300 m.

ยิงโดยการยิงประทับบ่า

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เปิด“เอกสารลับ กต.” ร่างแผน กำจัด"แม้ว" ระบุเป็น“ภัยคุกคามความอยู่รอดรัฐบาล” จับแยกออกจาก"ฮุน เซน"

เรื่อง แนวทางการดำเนินการกับปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
กราบเรียน นายกรัฐมนตรี

อ้างถึง หนังสือกระทรวงการต่างประเทศ ลับมาก ด่วนที่สุดที่ กต 1302/2318 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552

สิ่งที่ส่งมาด้วย

1.เอกสารแนวทางการดำเนินการกับปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

2.ตารางการส่งสัญญาณและระดับความรุนแรงเพื่อเตรียมมาตรการป้องปราม และตอบโต้การกระทำของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

อนุสนธิหนังสือที่อ้างถึง รายงานปฏิกิริยาของกัมพูชาและเสนอแนวทางจัดการสถานการณ์และผลกระทบ ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

กระทรวงการต่างประเทศขอกราบเรียนเสนอแนวทางการดำเนินการกับปัญหาความ สัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ดังความละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.วิเคราะห์ท่าทีของฝ่ายกัมพูชา

1.1 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น "ภัยหลัก" มุ่งคุกคามความอยู่รอดของรัฐบาล

โดยใช้ยุทธศาสตร์มุ่งให้เกิดสถานการณ์ที่เสื่อมทรามลง (deterioration) โดยอาศัยกลยุทธ์ที่สำคัญ 2 ด้าน คือ ความร่วมมือจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านต่างๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่ม นปช. ที่มุ่งหวังจะบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลไทย จนประเทศไทยตกอยู่ในสภาพไร้อำนาจรัฐ และโค่นล้มรัฐบาล อย่างไรก็ดีมาตรการตอบโต้ของกัมพูชาในขณะนี้ ยังคงจำกัดอยู่เพียงมาตรการทางการทูตเท่านั้น ยังไม่ใช่มาตรการรุนแรง แต่เป็นการ"ยั่วยุ" เพื่อเร่งปฏิกิริยาให้ฝ่ายไทยตอบโต้อย่างรุนแรงขึ้น

1.2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ฝ่ายไทยไม่ควรหลงประเด็นตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดว่า เป็นความขัดแย้งระหว่างบุคคล คือ ระหว่างนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

1.3 สถานการณ์ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาจะยืดเยื้อหรือไม่ มิได้ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขภายในประเทศไทยเอง โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าสถานการณ์จะลงเอยอย่างไร ดังนั้น ความเป็นเอกภาพของรัฐบาล ทุกส่วนราชการและทุกภาคส่วนของสังคมไทยเป็นปัจจัยสำคัญสูงสุดในการช่วยให้ ปัญหาดังกล่าวคลี่คลายลง

2.แนวทางการดำเนินการ

เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เป็นไปตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณและนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคาดหวัง กระทรวงการต่างประเทศขอกราบเรียนเสนอมาตรการ ดังนี้

2.1 ป้องกันหรือหลีกเลี่ยงมิให้สถานการณ์รุนแรง โดยไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็น (de-escalation) เช่น ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง โดยไม่เริ่มมาตรการตอบโต้ โดยไม่มีเหตุผลหรือเงื่อนไขพอควร ดำเนินมาตรการต่างๆ ด้วยความมีน้ำหนัก หนักแน่น ค่อยเป็นค่อยไป (incremental) สมน้ำสมเนื้อ (proportional) มีความหมายและยังประโยชน์คุ้มค่า และที่สำคัญ ไม่ควรดำเนินการใดๆ ที่ดูเหมือนว่า เป็นการ "เต้น" ไปตามกระแสของสื่อ

2.2 สร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างส่วนราชการเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการดำเนิน การที่เกี่ยวข้องอย่างสอดคล้องกัน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลต่อฝ่ายต่างๆ โดยอาจพิจารณาเชิงให้ข้อมูลซึ่งเป็นข้อเท็จจริงและความจริงก่อนที่ฝ่าย กัมพูชาจะบิดเบือน หรือเมื่อปรากฏความเท็จ

2.3 สร้างความเป็นเอกภาพในประเทศไทย รวมถึงรัฐบาลไทยเอง เพื่อมุ่งเป้าให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาประจักษ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีโอกาสได้คืนสู่อำนาจอีกครั้ง และความสัมพันธ์และผลประโยชน์ส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน และกัมพูชาจะเสียประโยชน์ในระยะยาวที่มีอยู่กับประเทศไทย ไม่ว่าด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ฯลฯ

2.4 ลดและแยกการเชื่อมโยงระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและฝ่ายค้านในประเทศไทย ด้วยการลดและขจัดเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินการของฝ่ายตรงข้าม รัฐบาล โดยรัฐบาลควรแสดงท่าทีและความเห็นต่างๆ อย่างมีเอกภาพและเป็นระบบการตอบโต้รัฐบาลกัมพูชาอย่างสุขุม มีสติ ไม่วู่วาม และกระทบประชาชนน้อยที่สุด จะมีส่วนสำคัญในการ "ครองความนิยม" ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลที่สำคัญควรเร่งแปรความรู้สึก "สะใจ" หรือสนับสนุนรัฐบาลเป็น "ความเข้าใจ" โดยอาศัยการประชาสัมพันธ์ และบริหารจัดการ"เวลา" ให้เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลไทยที่สุด โดยการเร่งการพิจารณาคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ยั่งคั่งค้างอยู่

3.จุดหมายปลายทาง (end game)

ต้องคำนึงว่า จุดประสงค์ของไทย คือ การปรับความสัมพันธ์สู่ปกติ (normalization) ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (regime change) ในกัมพูชา อย่างไรก็ดี เนื่องจากต้นเหตุของปัญหามาจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณมุ่งทำลายความอยู่รอดของรัฐบาล การจัดการกับปัญหานี้จึงจำเป็นต้องมุ่งไปที่ต้นตอของปัญหาด้วยการ

(1) ขจัดภัยคุกคามหลัก และ

(2) แยกหรือทอนความร่วมมือระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งแนวโน้มที่น่าจะเป็นไปได้มี 3 สถานการณ์

3.1 ดีที่สุด (best case scenario)

การประคองสถานการณ์ปัจจุบัน (status quo) เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณและนายกรัฐมนตรีกัมพูชาไม่สามารถดำเนินการใดๆ ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ตามแนวทางการดำเนินการกับปัญหาข้อ 2 และรอเวลาเพื่อพิจารณาใช้ประเทศหรือบุคคลที่ 3 ที่มีอิทธิพลหรือเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาในการช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าว

3.2 ระดับกลาง (medium case scenario)

3.2.1 ต่างฝ่ายต่างใช้มาตรการตอบโต้ โดยเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับเพื่อชิงความได้เปรียบ

3.2.2 หากกัมพูชาดำเนินมาตรการที่รุนแรงขึ้นในทางที่เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของ ไทย รัฐบาลควรดำเนินมาตรการตอบโต้ที่ (1) ไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของไทยและประชาชนของทั้งสองประเทศ (2) สมน้ำสมเนื้อ และ

(3) ไม่สร้างรอยแผลในความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศในระยะยาว

3.2.3 ในขณะเดียวกัน รัฐบาลยังไม่ควรกล่าวถึงมาตรการตอบโต้ล่วงหน้า เนื่องจาก (1) ฝ่ายกัมพูชาจะมีเวลาเตรียมการตอบโต้ (2) ทำให้ไทยถูกมองว่า "ธงอยู่แล้ว"ที่จะกลั่นแกล้งประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำตารางมาตรการตอบโต้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยระบุข้อดี/ข้อเสีย ดังความละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2

3.3 เลวร้ายที่สุด (worst case scenario)

หาก พ.ต.ท.ทักษิณและนายกรัฐมนตรีกัมพูชาร่วมกันกระทำการใดๆ จนเกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในวงกว้าง เป็นการละเมิดบูรณภาพของดินแดน คุกคามอำนาจอธิปไตย และสถาบันสำคัญของไทย ซึ่งรวมถึงการดำเนินกิจกรรมเสมือนการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในกัมพูชา อันเป็นการแทรกแซงกิจการภายในและบ่อนทำลายประเทศไทยอย่างชัดเจน ก็จำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องพิจารณาตัดความสัมพันธ์ทางการทูต และยกเลิกการติดต่อทุกด้าน รวมถึงใช้มาตรการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตย

4.ข้อเสนอแนะ

หากเห็นชอบตามแนวทางดังกล่าวข้างต้น กระทรวงการต่างประเทศขอกราบเรียนเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการให้ส่วนราชการดำเนินการ ดังนี้

4.1 เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างส่วนราชการ ขอให้มีการปรึกษาหารือกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิดก่อนดำเนินการ ด้านนโยบายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชา

4.2 ใช้แนวทางที่เสนอเป็นหลักในการดำเนินการอย่างสอดคล้องกัน

4.3 ใช้แนวทางเดียวกันในการให้ข้อมูลแก่ฝ่ายต่างๆ และสาธารณชน

จึงขอกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาข้อ 4

ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง

นายกษิต ภิรมย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

(ที่มา มติชนออนไลน์ , 19 ธันวาคม 2552)

“เวียดนาม”สอนเชิงขยี้ตลาดข้าว ไทยพ่ายแพ้การประมูล อย่างราบคาบ

ประเทศไทยในฐานะที่ครองแชมป์ผู้ส่งออกข้าวสูงสุดมาโดยตลอด กลับกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การประมูลให้กับ “เวียดนาม” อย่างราบคาบ โดยมีปากีสถานเป็นตัวสอดแทรกเพียงประปราย ทำให้ หลายฝ่ายตั้งคำถาม? ว่า เกิดอะไรขึ้นกับข้าวของไทย และอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าในอนาคตข้าวไทย จะยืนหยัดบนแท่นอันดับหนึ่งได้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

“รัฐบาลฟิลิปปินส์” ได้ประกาศเปิดประมูลซื้อข้าวครั้งใหญ่ เพื่อต้องการนำเข้าไปใช้บริโภคภายในประเทศและกันไว้เป็นสต๊อกสำรองกรณีฉุก เฉิน โดยเปิดประมูลทั้งสิ้น 4 รอบ เริ่มตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. ที่ประเดิมให้ประมูลก่อน 2.5 แสนตัน ตามมาด้วยในวันที่ 1 ธ.ค. อีก 4.5 แสนตัน และอีก 2 ครั้งในวันที่ 8 ธ.ค. และ 15 ธ.ค. ครั้งละ 6 แสนตัน รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ความต้องการนำเข้าข้าวมีมากเกือบ 2 ล้านตัน

ปรากฏว่าผลการประมูลเบื้องต้น รอบแรก ในเดือน พ.ย. ประเทศเวียดนามกวาดชัยชนะทั้งหมดไปได้ถึง 2.5 แสนตัน ส่วนรอบสองที่ประกาศอย่างเป็นทางการ เวียดนามก็กวาดชัยชนะไปอีกโดยได้ออร์ เดอร์ข้าวมากถึง 3 แสนตัน ปล่อยให้ไทยได้ไปเพียง 1 แสนตัน ปากีสถาน 50,000 ตัน และที่เหลือเป็นโบรกเกอร์ข้าวรายอื่น

ขณะนั้นผู้ส่งออกข้าวได้ประเมินว่า ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะฟิลิปปินส์ยังเปิดนำเข้าข้าวอีกเยอะ อีกทั้งประเมินว่าเวียดนามน่าจะเหลือข้าวส่งออกน้อยแล้ว แต่คล้อยหลังจากนั้น ในการประมูล 2 ครั้งล่าสุดกลับปรากฏว่า สถานการณ์ส่งออกข้าวไทยกลับเลวร้ายลงไปอีก เพราะแพ้ประมูลเวียดนามแบบหลุดลุ่ยกว่า 2 ครั้งแรก เบื้องต้นผลประมูลอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าข้าวจำนวน 1.2 ล้านตัน ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องการ “เวียดนาม” จะกวาดไปได้อีก 9 แสนตัน ปล่อยให้ไทยได้ข้าวเพียง 1 แสนกว่าตัน และที่น่าตกใจที่สุด คือในรอบสุดท้ายเวียดนามก็เป็นผู้ชนะทั้ง 6 แสนตันโดยไม่แบ่งให้ชาติใดเลย

ขณะที่บรรดาสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ยอมรับว่าการประมูลข้าวครั้งนี้ไทยได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับเวียดนามโดยได้เพียง 2 แสนกว่าตัน โดยเชื่อว่าเวียดนามจะได้มากกว่าล้านตันแน่นอน แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีว่า เมื่อตัวเลขยังไม่เป็นทางการก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาส่งมอบข้าวจริงในปีหน้า ไทยน่าจะส่งออกข้าวเพิ่มได้อีก เพราะโบรกเกอร์ข้าวที่ชนะการประมูลน่าจะสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามาเพิ่มอีก

สาเหตุการแพ้ประมูลข้าวครั้งนี้ ประเด็นสำคัญมาจากราคาข้าวของเวียดนามที่เสนอขาย มีราคาต่ำกว่าข้าวจากไทยมาก โดยเวียดนามเสนอในราคาต่ำสุดเพียงตันละ 664.90 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผู้ส่งออกจากไทย ปากีสถาน และโบรกเกอร์ข้าวเสนอราคาสูงกว่าตันละ 700 ดอลลาร์สหรัฐทำให้ไทยตกรอบไปโดยปริยาย

แต่เมื่อค้นสาเหตุลึก ๆ แล้วพบว่าเหตุผลที่ข้าวเวียดนามถูกกว่าข้าวไทยมาก เป็นเพราะต้นทุนการผลิตของเวียดนามที่ถูกกว่า หลังจากรัฐบาลเวียดนามมีการทุ่มงบประมาณปีละหลายพันล้านบาท เพื่อพัฒนาการเพาะปลูกให้ทันสมัยให้ได้ผลผลิตดี ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ของเวียดนามสูงมากกว่าไทยเกือบเท่าตัว

ข้อมูลจากหน่วยงานวิชาการเกษตรของสหรัฐอเมริกา ระบุว่าผลผลิตข้าวต่อพื้นที่เพาะปลูกของไทย ยังเป็นรองมาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย หรือกระทั่งลาวอยู่ และอยู่ระดับใกล้เคียงกับพม่า กัมพูชา ที่ปลูกได้เฉลี่ย 2.6-2.7 ตันต่อเฮคเตอร์ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านปลูกได้มากกว่า 3.5-5 ตัน โดยเฉพาะเวียดนามที่ผลผลิตเกือบ 5 ตันต่อเฮคเตอร์

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องของการที่ธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงิน ดองอีก 20% เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาข้าวของเวียดนามถูกลงกว่าเดิมอีก และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามยิ่งทิ้งห่างจากไทยมากขึ้นไปอีก จึงกลายเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไทยเป็นฝ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงในเวทีประมูล ข้าวฟิลิปปินส์ในครั้งนี้

ทั้งนี้ “ชูเกียรติ โอภาสวงศ์” นายกสมาคม ผู้ส่งออกข้าวไทย ชี้ให้เห็นว่า ที่ผ่านมาไทย ไม่ได้เป็นเจ้าตลาดข้าวในฟิลิปปินส์อยู่แล้ว เพราะ ฟิลิปปินส์เน้นนำเข้าข้าวคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะข้าว 25% ซึ่งไม่ใช่เป็นข้าวที่ไทยเน้นผลิต เพราะไทยมีการสีแปรข้าวที่มีคุณภาพสูงเป็นหลัก อย่างไรก็ตามมีความเป็นห่วงว่าไทยมีโอกาสสูญเสียการเป็นผู้นำตลาดข้าวใน อนาคตอีก 5 ปีได้ โดยขณะนี้ไทยได้เสียแชมป์ในกลุ่มข้าวขาวให้เวียดนามไปแล้ว โดยไทยส่งออกได้ปีละไม่เกิน 2 ล้านตัน ขณะที่เวียดนามส่งออกได้ปีละมากกว่า 4.9 ล้านตัน

ขณะที่ประเด็นสำคัญก็คือเวียดนามยังมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวและการเพาะปลูก อย่างต่อเนื่อง และพยายามเริ่มพัฒนาการปลูกข้าวหอมมะลิด้วย อีกหน่อยเกรงว่าหากสามารถเต็มกระบวนผลิต ภาพรวมการส่งออกข้าว ไทยทั้งระบบคงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากนี้รัฐบาลเวียดนามยังมีนโยบายช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมข้าวอย่างเต็ม ที่ โดยมีการตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโดยตรงซึ่งจะช่วยเพิ่ม ผลผลิตได้อีกไม่ต่ำกว่าปีละ 3 แสนตัน รวมถึงพัฒนากระบวนสีแปรข้าว และการจัดเก็บข้าวในโกดังให้มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้เวียดนามมีโอกาสผลิตข้าวคุณภาพสูงแข่งกับไทยได้อีก

ด้าน “ชุติมา บุณยประภัศร” อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า เวียดนามเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะรัฐบาลกำลังสร้างคลังเก็บข้าวตามลุ่มน้ำโขง และมีการพัฒนาตลาดกลางข้าวร่วมกับกัมพูชา ซึ่งจะทำให้ระบบการค้าข้าวจากเวียดนามครบวงจรมากขึ้น จากเดิมที่เป็นการทำนาแบบยุคเก่าที่มีโกดังเก็บข้าวไม่เพียงพอ และต่อไปเวียดนามน่าจะมีบทบาทต่อการแข่งขันในตลาดข้าวโลกเพิ่มอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ข้อมูลด้านผลผลิตข้าวสาร ณ ปัจจุบัน เวียดนามยังผลิตข้าวขาวได้มากกว่า 700 กก. ต่อไร่ ขณะที่ผลผลิตของไทยมีเพียง 456 กก.ต่อไร่เท่านั้น นอกจากนี้พื้นที่นาของเวียดนามยังอยู่ในพื้นที่ชลประทานถึง 82% ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด ขณะที่ไทยมีเพียง 27% เท่านั้น

เป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับแนวโน้มการส่งออกข้าวไทย ที่ปีนี้แม้จะเป็นช่วงขาขึ้นแต่ไทยกับส่งออกข้าวได้ 8.5 ล้านตัน ลดลงกว่าปีที่แล้ว 1.5 ล้านตัน สวนทางกับคู่แข่งมียอดส่งออกเติบโตอย่างน่าพอใจ โดยข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 52 ไทยส่งออกข้าวได้ลดลง 16.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ส่งออกอันดับ 2 และ 3 ของโลกอย่างเวียดนามกับปากีสถานกับขยายตัว 27.97% และ 37.29% รุกคืบกินส่วนแบ่งตลาดจากไทยไปมาก

จะเห็นได้ว่าจุดแตกต่างระหว่างข้าวไทย กับเวียดนามที่ชัดเจน อยู่ที่ประเทศไทยเน้นการดูแลชาวนาที่ปลายเหตุ คือการออกมาตรการแทรกแซงราคา รับจำนำ เพื่อใช้เป็นนโยบายหาเสียง หวังผลทางการเมือง ขณะที่รัฐบาลเวียดนามเน้นการดูแลพัฒนาตั้งแต่กระบวนการผลิต ทำให้อุตสาหกรรมข้าวมีการเติบโตแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นโอกาสที่ประเทศจะเสียแชมป์ส่งออกข้าวให้เวียดนาม ไม่ใช่เป็นเรื่องไกลเกินจริง

หากวันนี้รัฐบาลยังมัวแต่ทะเลาะ มุ่งรักษาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง หรือพวกพ้องเพียงอย่างเดียว โอกาสที่ข้าวไทยจะเพลี่ยงพล้ำก็มีสูง จึงถึงเวลาแล้ว ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องโชว์กึ๋นแสดงความสามารถ ออกมารักษาตลาดข้าวไว้ ก่อนที่บรรพบุรุษข้าวไทยจะเสียน้ำตา ไม่ใช่มัวแต่เล่นการเมืองเพื่อโชว์ปา...่ไปวัน ๆ.

ทีมเศรษฐกิจ

นสพ.เดลินิวส์

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทีแรกบอกฮุนเซนแกล้งต่อมาบอกจักฉาก ตอนหลังบอกดักฟัง สุดท้ายรับว่าคำรบทำคนเดียว ตกลงอะไรคือ เรื่องจริงของรัฐบาล ?

ขอชมเชยด้วยจิตคารวะนักรบไซเบอร์ทุกท่านสู้ด้วยใจ และอุดมการณ์ที่แข็งแกร่งจริงๆ

ศัตรูใช้วิธีมารทุกรูปแบบเพื่อฆ่าท่านมหาบุรุษทักษิณจากกรณีจารกรรมความ ลับการบิน เขาใช้ทั้งไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน สื่อกระแสหลักที่เคารพเกรงใจอำมาตย์ รวมทั้งฟรีทีวีทุกช่องออกข่าวโกหกตอแหล มีทั้งโพลล์สารพัดช่วยว่า คะแนนนิยมมาร์กพุ่งสามเท่า
นักรบแดงมีเพียงอินเตอร์เน็ต และดาวเทียมแดง แต่มันก็แปลกศึกครั้งนี้ แดงชนะ อย่างปฎิเสธไม่ได้
มาวิเคราะห์และทวนความจำกัน

24 พย กษิต มันบอกว่า ฮุนเซนแกล้งไล่เลขาเอกสถานทูต ไม่เข้าใจว่าผิดอะไร เขมรแกล้ง
จากนั้นพอฮุนเซนอ้างนายศิวรักษ์จารกรรมข้อมูลความลับการบิน สื่อประโคมข่าวเขมรหาเรื่องวิศวะไทย โอ๋นางสิมารักษ์ แม่นายศิวรักษ์สารพัด
จากนั้น เขมรเผยว่านายคำรบ เลขาเอกสถานทูตไทยสั่งการนายศิวรักษ์ นายศิวรักษ์ และแม่เปิดเผยว่าคำรบสั่งลูกเอาข้อมูลทำให้ลูกของนางติดคุก ตอนนี้สื่อกระแสหลักและทีวีเปลี่ยนโทนว่า นางนี่ผัวมันสนิทกับทักษิณ นางกะลูกเป็นคนเสื้อแดง

โอ้ เปลี่ยนโทนกันง๊าย ง่าย เหมือนถอดกางเกงลิงนั่งโถส้วม
สุดท้ายใช้โพลล์สวนดุสิตว่า คนร้อยละ 63 บอกจัดฉาก แต่นักรบไซเบอร์ และทีวีเสื้อแดงแก้เกมส์ทัน ออกโต้เรื่องนายคำรบคือ คนของกษิต และคนกระทรวงต่างประเทศ จะมีการจัดฉากได้ไง

รัฐบาลเลยหันมาเล่นกัมพูชาว่า wiretapping หรือดักฟังโทรศัพท์ ขัดต่อกฎหมาย แต่นักรบไซเบอร์อีกครั้งใช้เรื่องจารกรรมข้อมูลของนายคำรบมาหักล้างว่า เมื่อไทยจารกรรม เขาก็ตอบโต้จารกรรมโดยดักฟัง แถมบีบคำรบให้ปรากฎตัว มติมหาชนเหนือกว่าโพลล์อย่างชัดเจน จน ปชป ทั้งมาร์ก สุเทพบอกให้เลิกข่าวนี้เหอะ หลังพบว่า สู้ต่อก็แพ้แล้ว และนางสิมารักษ์ทนความเลว พฤติกรรมใส่ร้ายของพรรค ปชป ไม่ไหว ประกาศจะฟ้องนายสุเทพ และนายคำรบ

สุดท้าย นายคำรบเผยตัวหลังถูกบีบเข้ามุม แต่ยังกันนายกษิตว่าไม่สั่งการ ทั้งที่ถ้ามีการสาวต่อจากการดักฟังโทรศัพท์ อาจจะพบอะไรดีๆ กว่านี้ว่ามีการติดต่อจากใครในไทยหรือไม่ นายกษิตเกี่ยวข้องหรือไม่

แต่ที่แน่ๆ วันนี้ ต้องยอมรับว่า การข่าวของรัฐบาล การข่าวผ่านไทยรัฐ เดลินิวส์ ฟรีทีวีล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง รัฐบาลช้ำเลือดช้ำหนองหนักจนล่าสุดคิดจะรุกรานกัมพูชาด้วยกำลัง แต่ก็แพ้การข่าวของเสื้อแดงอีกครั้งจากการเปิดเผยเอกสารลับของสามเกลอ
นักรบไซเบอร์ โดยเฉพาะอีกครั้งนักสู้จากเวปการเมืองยอดนิยมอย่างประชาไท และพันทิพย์ ได้ออกมาทำสงครามด้วยใจเป็นธรรม ปราศจากการจ้างวาน ตอบโต้สื่อหลักอย่างได้ผล จนบัดนี้ สิ่งที่รัฐบาลพูดต้องกลับคำไปมา และเป็นที่สงสัยจากสังคมได้

ชัยชนะครั้งนี้ เพิ่มแรงรุก แรงสู้ ไฟในตัวของผู้รักประชาธิปไตยที่จะใฝ่หาข่าวที่เป็นจริง สัจจธรรม และความชอบธรรมในการปกครองบ้านเมืองแทนที่จะให้โจรที่ทหารจัดตั้งครองเมือง

ผมกราบคารวะนักรบไซเบอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านนั่นแหล่ะ สรรสร้างและรังสฤษฎิ์วิถีการปกครองประชาธิปไตยด้วยคีย์บอร์ดของท่านเอง U are the People, U are the greatest !!!!!!!

เครดิต.....
Sat, 12/19/2009 - 12:35 | by เสรีชน
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/id/10391

+++++++++++++++++++++++++++++++

ไชโย ไอ้อะปิสิด นำประเทศไทยไปเป็นขี้ข้าอะเมริกาเรียบร้อย/ผอ.ข่าวกรองไอ้กันยืนยันว่าสั่งให้ไทยจับจริง/อิบอ๋ายละประเทศไทย
Sat, 12/19/2009 - 12:31 | by ลุงจุก | Report topic

อาวุธชุดนี้จุดปลายทางคือตะวันออกกลาง 555555555

ขนาดไอ้กันยังโดนเละจาก11/9 แล้วไทยละมีแค่หัวกล้วยจะไปต้านอะไรกับพวกแขกตะวันออกกลาง ยิ่งสายสัมพันธ์กับภาคใต้ด้วยแล้ว คอยดูเถอะ แมร่งจะยิ่งรุณแรง

เท่ากับไอ้กันประกาศโดยเปิดเผยว่า ไทยเรานั้นเป้นพวกเดียวกับมัน เท่ากับเป็ยศัตรูกับผู้ก่อการร้ายโดยตรงนั่นเอง สมเพชสมองหมาๆปัญญาควายๆของไอ้เฮี้ยมาร์คจริงๆ*

***************************************************

ผอ.ข่าวกรองแห่งชาติ สหรัฐฯ ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าสหรัฐฯมีบทบาทในกรณีนี้ เผย อาวุธผิดกม. น้ำหนัก 30 ตัน จาก โสมแดงที่ถูกยึดได้ในไทย มีจุดหมายปลายทางนำไปส่งที่ตะวันออกกลาง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. อ้าง นายเดนนิส แบลร์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า อาวุธผิดกฎหมายน้ำหนักประมาณ 30 ตัน จากเกาหลีเหนือที่ถูกยึดได้ที่ประเทศไทย มีจุดหมายปลายทางนำไปส่งที่ตะวันออกกลาง

รายงานระบุว่า นายเดนนิส แสดงความเห็นลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า หน่วยงานหลายแห่งของสหรัฐอเมริกา ได้ประสานความร่วมมือระหว่างกันและกับหุ้นส่วนในต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ แล้ว สามารถนำไปสู่การสกัดกั้นการลักลอบขนอาวุธของเกาหลีเหนือไปยัง ตะวันออกกลางได้สำเร็จ

นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของอาวุธที่ถูกยึดได้ในประเทศไทย และเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่าสหรัฐอเมริกามีบทบาทในกรณีนี้

นายเดนนิส ระบุด้วยว่า การยึดอาวุธดังกล่าวแสดงถึงการปรับปรุงความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานด้าน ข่าวกรอง 16 แห่ง หลังจากที่หน่วยงานเหล่านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าขาดความร่วมมือกัน ซึ่งนำไปสู่การโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
19 ธันวาคม 2552, 10:35 น.

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

# การ ใช้-แก้ คอมฯ ต่าง ๆๆ

โปรแกรม Un Install ใ้ช้ง่าย ใช้ดี ฟรีอีกต่างหาก มี เมนูภาษาไทยด้วย...
จากเวป พันทิพย์
http://www.pantip.com/tech/techblog/article.php?articleID=BA2804211

+++++++++++++++++

การ Mount image หรือ Mount แผ่น คืออะไร

สมมุติว่าเรามีเพื่อนคนนึงชื่อว่า A นาย A ต้องการแผ่น CD หรือ DVD แผ่นหนึ่ง แต่ไม่ต้องการซื้อ พอดีเรามี CD แผ่นนั้นอยู่ และอยากจะ Copy แผ่น CD ให้ แต่การ Copy แผ่น CD โดยปกติโดยใช้คำสั่ง Copy และ Paste อาจทำให้ได้ข้อมูลที่ได้ไม่สมบูรณ์และเอาไปใช้จริงไม ่ได้ เช่นแผ่นเกม ดังนั้นเราจะต้องทำการ Copy โดยใช้คำสั่ง Extract เพื่อให้ CD แผ่นนั้นกลายเป็นไฟล์ใน Computer ก่อน วิธีแบบนี้เราเรียกว่า Extract แผ่น CD ให้เป็นไฟล์ ISO (ข้ามขั้นตอน Extarct ไปก็แล้วกัน เดี๋ยวจะไม่เข้าเรื่อง หรือดูที่ link นี้)

หลังจากที่ได้ ISO ไฟล์มาแล้ว นาย A ก็จะได้ CD แผ่นนั้นในรูปแบบไฟล์ ISO ไป ซึ่งนาย A จะต้องเอาไป Write เป็นแผ่น CD ใหม่อีกแผ่นนึง แต่ปัญหามีอยู่อีกว่า นาย A ไม่อยากซื้อแผ่นเปล่า เพื่อเขียนแผ่น CD ใหม่ นาย A จึงใช้โปรแกรมช่วยจำลอง Drive ขึ้นมาเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการเล่นแผ่น CD นั้น โดยไม่ต้องเขียนแผ่นใหม่

โปรแกรมช่วยที่พูดถึงนั้น สามารถจำลอง Drive ที่เรียกว่า Virtual Drive ได้ Virtual Drive หมายถึง Drive CD/DVD ที่ไม่มีอยู่จริง แทนที่เราจะใส่แผ่น CD จริงๆเข้าไปใน Drive นี้ เราก็เพียงแต่ใส่ไฟล์ ISO ลงไป และยังคงใช้ไฟล์ ISO ได้เหมือนกับมีแผ่น CD นั้นอยู่ใน Drive ของเรา วิธีแบบนี้เรียกว่าการ Mount Image หรือ Mount แผ่น
ในปัจจุบันมีโปรแกรมอยู่ 2 โปรแกรมที่นิยมกันนั่นคือ Daemon Tool หรือ Alcohol 120%


Alcohol 120% เวอร์ชั่น 1.9.7.6221 พร้อม Keymaker
http://rapidshare.com/files/22674186...1.9.7.6221.rar


DAEMON Tools
http://www.disc-tools.com/download/daemon347+md5sum


Power ISO เวอร์ชั่น 4 (ขนาด 6.10 MB พร้อม Serial )
http://rapidshare.com/files/30498162...e_poweriso.rar


วิธี Mount image

Alcohol 120%
1. หลังจากที่ติดตั้งโปรแกรม Alcohol 120% แล้ว ให้สังเกตดูว่าจะมี Drive CD/DVD เพิ่มขึ้นมาอีก 1 Drive
2. กดปุ่มคลิ๊กขวามือที่ Drive นั้น แล้วเลือก Mount image >> open
3. เลือก Index ไฟล์หรือ ISO ไฟล์เช่น iso. cue, mds, ccd, nrg ที่ได้จากการ Download และกด Open
4. Drive ที่เพิ่มใหม่จะมีข้อมูลของแผ่น CD นั้นปรากฎขึ้น เหมือนกับว่าเราใส่แผ่น CD นั้นไว้ใน Drive จริงๆของเรา
5. เมื่อมีข้อมูลแล้วจะสามารถทำการ Install (ในกรณีที่เป็นเกม PC), เปิดเล่นกับโปรแกรม ePSXe โดยใช้คำสั่ง File >> Run CD ROM (ในกรณีแผ่น CD นั้นคือแผ่น PS1) หรือจะอ่านข้อมูลปกติใน Drive นี้ก็ได้

Daemon Tool
1. เมื่อติดตั้งโปรแกรม Daemon Tool เสร็จ จะมี Icon สีแดงของโปรแกรมปรากฎขึ้นมาใน System tray
2. เลือก Virtual CD/DVD-ROM
3. เลือก Device 0: [F:] No media >> Mount image (ตัวอักษรของ Drive อาจไม่เหมือนกันในแต่ละ Computer)
4. เลือก Index ไฟล์หรือ ISO ไฟล์เช่น iso. cue, mds, ccd, nrg ที่ได้จากการ Download และกด Open
5. Drive ที่เพิ่มใหม่จะมีข้อมูลของแผ่น CD นั้นปรากฎขึ้น เหมือนกับว่าเราใส่แผ่น CD นั้นไว้ใน Drive จริงๆของเรา
6. เมื่อมีข้อมูลแล้วจะสามารถทำการ Install (ในกรณีที่เป็นเกม PC), เปิดเล่นกับโปรแกรม ePSXe โดยใช้คำสั่ง File >> Run CD ROM (ในกรณีแผ่น CD นั้นคือแผ่น PS1) หรือจะอ่านข้อมูลปกติใน Drive นี้ก็ได้

Power ISO
1. หลังจากติดตั้งโปรแกรมแล้ว อาจต้องรีเซ็ตเครื่องคอม 1 ครั้ง เพื่อให้มีคำสั่ง Context menu เมื่อคลิ๊กเมาท์ขวามือ
2. เลือกที่ My Conputer หรือ Explorer
3. คลิ๊กเมาส์ขวามือที่ Drive ใดก็ได้ จะมีชุดคำสั่งของ Power ISO ขึ้นมา ให้เลือก Set Number of Drives
4. เลือก 1 Drive เพื่อทำเป็น Drive จำลอง (Virtual Drive)
5. เราจะสังเกตเห็นว่ามี Drive เพิ่มขึ้นมา 1 Drive ตามที่เราทำข้อ 4
6. คลิ๊กเมาส์ขวามือที่ Drive ที่เพิ่มขึ้นมา เลือก Mount Image to Drive..
7. เลือกไฟล์ที่ต้องการ Mount เมื่อกด Open ก็จะมีไฟล์ต่างๆปรากฎขึ้นมาทันที
(หรือเราจะคลิ๊กเมาส์ขวามือที่ไฟล์ iso ที่เราต้องการ Mount เลยก็ได้ แล้วเลือก Mount Image to Drive.. ก็ได้เช่นกัน)

+++++++++++++++++

โปรแกรมที่ใช้เล่น Dos บน XP ชื่อว่า DosBox ครับ
ดาวโหลดได้ที่ http://dosbox.sourceforge.net/

ส่วนวิธีการใช้
ลงเกมส์ผ่าน XP ไปธรรมดาครับ
และเมื่อลงโปรแกรมเสร็จแล้ว ก็เปิดโปรแกรม
มันจะขึ้นหน้าจอ cmd (ที่โปรแกรมมันจำลองไว้) เป็นไดฟ์ Z:\

ถ้าเราต้องการที่จะใช้ไดฟ์ไหน เช่น
ลงโปรแกรม Dos ไว้ที่ c:\dos
ก็พิมพิ์คำสั่ง
mount c c:\ (เพื่อสร้างไดฟ์ C:\)
c: (เพื่อเข้าไปใน c:\)
และก็พิมพิ์คำสั่งเพื่อเข้าไป run ได้เลยครับ

+++++++++++++++++

กำจัดพฤติกรรมไม่พึ่งประสงค์ของไมโครซอฟต์เวิร์ดให้สิ้นซาก

คุณเป็นผู้ใช้ไมโครซอฟต์เวิร์ดคนหนึ่งที่เคยเจอปัญหาต่อไปนี้ไหม

1 กดแป้น Enter เพื่อขึ้นย่อหน้าใหม่ หรือกดแป้นเว้นวรรค เวิร์ดกลับภาษาบนแป้นพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษให้ทันที
2 ใส่รูปแล้วพบว่ามีกรอบวาดมาด้วย รำคาญจัง ไม่รู้ว่าจะต้องเอาออกอย่างไร
3 มีเส้นประหยักสีแดงใต้คำ รำคาญตาจัง
4 เปิดเวิร์ดขึ้นมาแล้วเวลาเปิดแฟ้มต้องเสียเวลาเปลี่ยนไปหาโฟลเดอร์ที่เก็บแฟ้มใช้งานบ่อย ๆ
5 พิมพ์ที่อยู่อินเทอร์เน็ต เช่น www.microsoft.com หรือที่อยู่อีเมล์ เช่น microbee@se-ed.net เวิร์ดเปลี่ยนข้อความธรรมดาเป็นไฮเปอร์ลิงก์ทันที
6 กดแป็นแท็บ 2 ครั้ง ทั้งย่อหน้าเยื้องเข้ามาข้างในกระดาษ ต้องเสียเวลากดแป้น Enter แล้วกดแป้น Backspace ทั้ง ๆ ที่ต้องการเยื้องเฉพาะบรรทัดแรก
7 และอื่น ๆ

ผู้ใช้หลายคงปวดเศียรเวียนเกล้ากับความฉลาดของโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดรุ่น ใหม่ เลยหันไปใช้ MS Word 97 หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมน่ารำคาญบางตัวยังปรากฏอยู่

วิธีการกำจัดพฤติกรรมไม่พึ่งประสงค์ของไมโครซอฟต์เวิร์ดให้สิ้นซาก มีดังนี้

ยกเลิกกลับภาษาบนแป้นอัตโนมัติ
1 เข้าเมนู Tools --> Options... --> Edit Tab
2 เอาเครื่องหมายถูกหน้า Auto-keyboard Switching ออก คลิก OK

ยกเลิกการใส่กรอบวาดอัตโนมัติ
1 เข้าเมนู Tools --> Options... --> General Tab
2 เอาเครื่องหมายถูกหน้า Automatically create drawing canvas when insert Autoshape ออก คลิก OK

ยกเลิกการใส่เส้นหยักสีแดงใต้คำ
1 เข้าเมนู Tools --> Options... --> Spelling & Grammar
2 เอาเครื่องหมายถูกหน้า Check spelling as you type ออก คลิก OK

ผลพลอยได้ของการยกเลิกการใส่เส้นหยักสีแดงใต้คำ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้น

กำหนดโฟลเดอร์เริ่มต้นของการเปิดแฟ้มในเวิร์ด
1 เข้า Start -> Documents --> My Documents
2 คลิกเมนู File --> New --> Folder
3 ตั้งชื่อโฟลเดอร์เป็น MS_Word
4 ย้ายแฟ้มที่สร้างด้วย MS Word ซึ่งอยู่ใน My Documents เข้าโฟลเดอร์ย่อย MS_Word ทั้งหมด
5 ปิดโฟลเดอร์
6 เข้าเมนู Tools --> Options... --> File Locations
7 คลิกที่ My documents ในช่อง File location:
8 คลิกปุ่ม Modify แล้วดับเบิลคลิกที่ MS_Word
9 ตอบ OK ตามกรอบโต้ตอบต่าง ๆ
10 ปิด MS Word แล้วเรียกใช้ MS Word ใหม่

ยกเลิกการใส่ Hyperlink อัตโนมัติ
1 เข้าเมนู Tools --> AutoCorrect Options... --> AutoFormat Tab
2 เอาเครื่องหมายถูกหน้า Internet and network paths with hyperlinks ออก คลิก OK

ยกเลิกการจัดย่อหน้าด้วยแป้น Tab แป้น Backspce
1 เข้าเมนู Tools --> AutoCorrect Options... --> AutoFormat As You Type
2 เอาเครื่องหมายถูกหน้า Set left- and first-indent with tab and ออก คลิก OK

ยกเลิกการสลับภาษาของแป้นพิมพ์อัตโนมัติทันทีที่กดแป้น Enter หรือเว้นวรรค
1 เข้าเมนู Tools --> Options... --> Edit
2 เอาเครื่องหมายถูกหน้า Autok Keyboard Switching ออก คลิก OK
วิธีการนี้ใช้กับ MS Word 2002 MS Word 2003 นะค่ะ

เครดิต...
ผึ้งน้อย19711128 07 ก.ย. 49 - 15:40:55 หมวด software -> Application

+++++++++++++++++

ตัวอักษร ใน อินเตอร์เน็ตบราวเซอร์ เล็ก ทางแก้ ครับ...

ลำดับที่ 1 ที่ต้องทำ

ไปที่

Tools --> Internet Options

ที่ป้าย General

กดปุ่มที่มุมขวาล่างสุด

Accessibility

ขึ้นจอย่อย

ให้ติกถูกในช่องที่ 3

Ignore font sizes specified on webpages

แล้ว กด OK

+++++++++++++++++++++++++

ลำดับที่ 2

ไปที่

Tools --> Internet Options

ที่ป้าย General

กดปุ่มที่มุมขวาล่างสุด

Fonts

เลือก Tahoma เพราะเป็น Fonts ที่ใหญ่ที่สุด

++++++++++++++++++++

ลำดับที่ 3

ไปที่

Tools --> Internet Options

ตอนนี้เราไม่ไปที่ ป้าย General

ให้ไปที่ป้าย Advanced

ไปที่ลำดับที่ 4 เอาปุ่มที่ติกถูก ออกซะเราจะไม่ใช่ เพราะว่ามันจะคืนค่าตั้งต้นเสมอ

Reset tex size to medium while zooming*

++++++++++++++++++

ลำดับที่ 4

ไปที่ View--> Tax Size --> แล้วเลือกขนาดตามใจ

Largest
Larger
Medium
Smaller
Smallest

http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=115420#115822

*****************************

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

# ทำบุญ เดือน ธค. 2552

http://board.palungjit.com/f109/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%8F%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93-198058-2.html



ขอเชิญร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้างตู้ใส่พระไตรปิฏกและตู้ใส่พระคัมภีร์ใบลานโบราณ

สายธารแห่งบุญ ธนาคารกรุงไทย สาขาคาร์ฟูร์
เลขที่บัญชี 980-0-32717-7
ชื่อบัญชี พระอธิการธนธรณ์

++++++++++++++++++++++

http://board.palungjit.com/f15/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%AC%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%81-%E0%B8%AD-%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%88-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7-211440-5.html



พระขรรค์โสฬสด้ามท่านท้าวเวสสุวรรณ ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม วัดตะโก อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

ขอเชิญบูชาพระขรรค์โสฬสด้ามท่านท้าวเวสสุวรรณ ขนาด ๑๖ ซม. เนื้อสัมฤทธิ์ ผ่านพิธีพุทธาพิเษก พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร เสาร์๕ ณ วัดท่าขนุน และพิธีโสฬส เมื่อวันที่ ๗ กค.๒๕๕๒ ที่ผ่านมา

ธนาคารกรุงเทพ สาขาลุมพินี ประเภทออมทรัพย์
หมายเลขบัญชี 124-4-14820-9
ชื่อบัญชี นายราชนวินทร์ แป้นทอง

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อ่านเอกสาร จาก PDF มาเป็น TAX บน Word โดยไม่ต้องพิมพ์ โดยโปรแกรมประเภท OCR

โปรแกรมอ่านไทย, ARN THAI

อ่าน ไทย เป็นโปรแกรม OCR ที่พัฒนาเอนจิน โดยหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีภาพ (Image Technology Laboratory -IMG) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC) และ พัฒนาอินเตอร์เฟส โดยบริษัทไทยซอฟต์ จำกัด โปรแกรมอ่านไทยสามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการวินโดว์ (ปัจจุบันเวอร์ชั่น 2.5) สามารถซื้อได้ที่เว็บไซต์ thaisoftware.co.th หรือ บริษัท ThaiSoftware Enterprise จำกัด 128/352 อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 32 ถนนพญาไท ราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2612-0511-5 โทรสาร. 0-2216-5153 และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของบริษัทได้แก่ พันธ์ทิพย์พลาซ่า : Pc & Mac(ชั้น 1), Soft2000 (ชั้น 2) , Daily Soft (ชั้น 2), ไดโนเสาร์ (ชั้น 2), ร้านคุณแหม่ม (ชั้น 2), Book Chest (ชั้น 3), คำไทย (ชั้น 3) IT Mall : BIOS (ชั้น 3-ชั้น 4), The Cat (ชั้น 4), มิลเลเนี่ยม (ชั้น 4) ฟิวเจอร์ รังสิต : ซอฟท์สแควร์ (ใกล้ศึกษาภัณฑ์) ตะวันนา : ซอฟท์แวร์คอนเนอร์ (ชั้น 1)

และนอกจากเวอร์ชั่นบนวินโดว์แล้ว อ่านไทยยังมีเวอร์ชั่นบนลินุกซ์ด้วย (อ่านไทย เวอร์ชัน 2.0) ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ ftp.opentle.org และสามารถดูวิธีการติดตั้งโปรแกรม อ่านไทย 2.0 บน Linux Ubuntu ได้ที่ ubuntuclub.com

----------------------------------------

OCR (โอซีอาร์) คืออะไร

Optical character recognition หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า OCR (โอซีอาร์) : คือ การแปลงไฟล์ภาพเอกสาร ให้เป็นไฟล์ข้อความโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์งาน

ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้โปรแกรม OCR

* ประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เนื่องจากไฟล์ข้อความมีขนาดเล็กกว่าไฟล์ภาพมาก
* สะดวกในการปรับแต่งและแก้ไขเอกสาร เนื่องจากไฟล์ข้อความสามารถปรับแต่งและแก้ไขได้ง่ายกว่าไฟล์ภาพ