วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

น.ต.อนุสร บัณฑิตย์ ''โค้ชต่าย''


ชื่อนี้ถ้ากล่าวถึงคนเป็นโค้ช อาจไม่คุ้นหูแฟนลูกยาง แต่คนในวงการรู้จัก อนุสร บัณฑิต หรือต่ายคนนี้ดี ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มนักตบ ร่างปราดเปรียว และคล่องแคล่ว ของมหาอำนาจลูกยางชาย สโมสรทหารอากาศ และ ทีมชาติไทย ที่เขานำทีมคว้าเหรียญทองแห่งเกียรติยศ กีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ปี 2538


        อีกบทบาทในปัจจุบัน ฐานะผู้ฝึกสอน ''โค้ชต่าย'' ชื่อที่นักกีฬาลูกทีม ให้ความเคารพ ในภาพครูฝึก ผู้ให้วิชา ด้วยความใส่ใจ ในสนามเข้มข้น นอกสังเวียนคือพี่ที่พร้อมจะให้ จึงไม่แปลกที่วันนี้ของโค้ชหนุ่มใหญ่วัย 45 ปี คนนี้ จะมีคนรักมากกว่าชัง

        นอกจากเป็นอดีตนักตบ หนุ่มสารพัดประโยชน์ เล่นได้ทุกตำแหน่ง หรือในหน้าที่โค้ช ผู้ยอมทำมากกว่าพูด อยู่ข้างหลังความสำเร็จ วันนี้ ''โค้ชต่าย'' อนุสร บัณฑิต นายทหารอากาศสังกัดบก.กองทัพไทย กับงานราชการบนทางที่ก้าวหน้าแล้ว โค้ชต่าย และครอบครัว ก็ได้สร้างวางรากฐานอนาคต กับงานเสริมที่มีรายได้มหาศาลในกิจการร้านอาหาร เนื้อย่างเกาหลี ที่ไปได้ดีกับอาชีพนี้

        ''อดีตดาวดังวันนี้ จึงขอว่ากันยาวๆ กับเรื่องราวของอดีตดาวตบและโค้ชทีมชาติคนนี้ ต.ต.อนุสร บัณฑิตย์
 

 หนุ่มน้อยนักกรีฑาดีกรีทองนร.อาเซียน
        อาจสับสนซักนิดกับการสะกดชื่ออนุสร ที่เดิมเราจะใช้ อนุสรณ์ บัณฑิตย์ เจ้าตัวยืนยันว่า ชื่อนี้เขียนไม่ผิดปน่ และมีที่มาที่ไป

        ''คือตัวอักษร ณ เณรกับการัณย์ ที่ตัดไปเพราะ ไปให้พระท่านดูตามวันเดือนปีเกิด ท่านก็บอกเป็นอักษรไม่เป็นมงคล ผมก็เลยไปเปลี่ยน ตัดออกไปเมื่อซักสิบปีมาแล้วล่ะนะ พอเปลียนใหม่เป็น อนุสรเราก็ติดนายร้อยเลยปีนั้น''
น.ต.อนุสร บัณฑิตกล่าว

        โค้ชต่ายเล่าเรื่องราววัยเด็กแบบพอประมาณ เกิดที่พระประแดง เป็นเด็กปากน้ำอยู่กับวัด เป็นเด็กวัดทรงธรรม อยู่กับหลวงพ่อ ช่วยงานวัดตั้งแต่เข้า หิ้วปิ่นโตตามหลวงพ่อบิณฑบาต จัดอาหาร ทำความสะอาดวัด งานพิธีเป็นหมด ที่พิเศษสำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ เขาจะเป็นคนที่เล่นกีฬาได้หลายอย่าง โดยเฉพาะกรีฑา ที่เล่นมาตั้งแต่ประถม และเล่นทุกประเภท

 มาเรียนมัธยมที่โรงเรียนวัดทรงธรรม ได้เล่นกรีฑาอย่างจริงจัง ที่ถนัดคือประเภทลานทั้ง พุ่งแหลน ทุ่มน้ำหนัก หรือกระโดดไกล เหตุผลที่จับประเภทนี้ก็เพราะไม่มีคนจะเล่น แข่งขันกีฬานักเรียน ที่แม้จะไม่มีแข่งมากรายการอย่างชนิดอื่น แต่ทุกครั้งที่ลงสังเวียน ก็จะมีเหรียญรางวัลให้เพื่อนในโรงเรียนได้ชื่นชม หนึ่งในนั้นคือ จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน ที่เป็นศิษย์โรงเรียนวัดทรงธรรมด้วยกัน

        จนมาถึง ม.ปลาย อนุสร บัณฑิตย์ ถูกกรมพลศึกษา เรียกตัวเข้าร่วมทีมนักเรียนไทยไปแข่งกีฬานักเรียนชิงชนะเลิศแห่งอาเซียนที่ ฟิลิปปินส์ ในปี 2526 และหนุ่มจากพระประแดงคนนี้ ก็สร้างชื่อด้วยการคว้าเหรียญทองพุ่งแหลน

 ตอน ม.ปลาย ผมเล่นทั้งกรีฑา ทั้งวอลเลย์บอล แต่เพราะกรีฑาอย่าพุ่งแหลน ขว้างจักร ไม่ค่อยมีคนเล่น เราก็มาเอาดีทางนี้ด้วย คราวนี้พอจะจบ ม.ปลาย ผมก็จะมาต่อโรงเรียนจ่าอากาศ คราวนี้พอจะเลือกกีฬาที่จะใช้เป็นโควตา ผมก็เลือกกรีฑานี่แหละ เพราะไม่ต้องแข่งกับใครมาก จริงๆ วอลเลย์ฯ เราก็เป็นแล้ว เล่นได้ แต่คนมากันเป็นร้อย ไม่ไหวครับ เลยเลือกกรีฑา แล้วก็ทำให้เราเข้าโรียนจ่าอากาศได้''

        โค้ชต่าย เล่าเรื่องราวในอดี ก่อนเข้ามาอยู่ค่ายทัพฟ้า ได้อยู่กับยอดนักตบ ยอดทีมลูกยางชาย

สู่อาณาจักรลูกทัพฟ้า
        ในรั้วลูกทัพฟ้า ที่นี่ อนุสร บัณฑิต แทบจะตัดกรีฑากีฬาที่สร้างชื่อให้ออกไปจากวิถีชีวิต และมาทุ่มเทให้กับวอลเลย์บอล กับทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นเบอร์ 1 ลูกยางชายตลอดกาล หนุ่มน้อยหน้าใหม่คนนี้ ได้เจอกับรุ่นเดอะอย่าง อำนาจ สามาราพัฒน์ ที่ต่อมาก็ขึ้นชั้นมาเป็นโค้ช จรัล พระคุ้มครอง จอมบอลเร็ว ''สองชาย'' สมชาย จรรยาศิริ และ สมชาย พินิจวงศ์ ปิยะ ศรีสมุทรนาค หรือ น.ท.ณัฐพล ศรีสมุทรนาค ในปัจจุบันยอดมือเซต และ ฉกรรจ์ พั่วกลาง ที่ตอนนั้นชื่อเสียงดังเปรี้ยงปร้างกันทุกคน


 กับรุ่นเดียวกัน ที่ต่อมาก็มีชื่อเสียงอย่าง เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ชื่อที่ใครๆ ก็รู้จักดี ''ปุ้ม'' เฉลิพล แสงประเสริฐ ในเวลาต่อมาก็ไปอยู่กับธนาคารกรุงเทพฯ ''โค้ชยุ่น'' มนต์ชัย สุภจิระกุล โดยนักตบในสังกัดทหารอากาศมี ''ลุงเกียรติ'' น.อ.ชูเกียรติ ไทยใหญ่ เป็นหัวหน้าโค้ช ที่หนุ่มนักตบทุกคน ให้ความนับถือสืบทอดกันมาทุกรุ่น

        ''ลุงเกียรติเป็นทั้งโค้ชที่สอนพวกเรามาตลอด อยู่กับลูกทีม ซ้อมกันหนักแต่ก็ได้ผล ทอ.ตอนนั้นได้แชมป์ทุกปี ต่อมาแบงก์กรุงเทพฯ ก็เริ่มขึ้นมา ลุงเกียรติคุมพวกเรานานมาก เป็นยอดโค้ชตนหนึ่งก็ว่าได้ หลายๆ อย่างผมก็ได้เรียนรู้จากลุงเกียรติ''
โค้ชต่ายกล่าว

        อนุสร บัณฑิต เล่นให้ทหารอากาศมาตั้งแต่เยาวชน พาทีมคว้าแชมป์หลายถ้วย รุ่นที่เล่นมาด้วยกัน จากที่กล่าวมาแล้ว ก็มีสองหนุ่มจากค่ายบัวหลวง ธนาคารกรุงเทพ ''เอก'' อนันตชัย ยูรประถม และ ''แชมป์'' ชาญยุทธ วุทธิพาณิง สองหนุ่มจากเมืองเหนือ ที่เคยสวมเสื้อเยาวชนทหารอากาศด้วยกันมาแล้ว

        จากระดับเยาวชน ไต่ขึ้นเล่นถ้วย ข ให้ทีมลูกทัพฟ้า ก่อนจะมาขึ้นชั้นเล่นชุดใหญ่ ซึ่งกว่ามายืนตรงนี้ได้ ก็ต้องวัดกันให้เห็นว่ามีฝีมือก่อนยึดเป็นหนึ่งในสิบสองนักตบในทีม แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ โค้ชต่าย ที่ได้ชื่อว่ามีการเล่นครบเครื่องทั้งรุกรับ ด้วยลีลาการเล่นที่ปราดเปรียว ทำให้ยึดพื้นที่ในทีมชุดใหญ่ได้อย่างเหนียวแน่น

 ในยุคที่ อนุสร บัณฑิต อยู่ในร่มเงาทีม "พญาอินทรี" อย่าง ทหารอากาศ ทีมลูกทัพฟ้ายังได้ชื่อเป็นมหาอำนาจลูกยางชาย แม้ทีมตบหนุ่มค่ายบัวหลวง ก็เริ่มทำทีมขึ้นมาเทียบเคียง เวลาผ่านไปเหมือนไม้ผลัดใบ จากรุ่นสู่รุ่น เมื่อถึงวัยที่นักตบต้องเลิกรา ก็มีมือตบหน้าใหม่ๆ ถ่ายเลือดมา นักตบดังๆ ยุคหลังที่ โค้ชต่าย ''ได้เล่นด้วยกันมาอย่า ''โย่ง'' สุนทร โพธิ์สีตา, ''โจ้'' อภิศักดิ์ รักชาติยิ่งชีพ, ''อู๋'' อรรถพล แดงประเสริฐ หรือ อนุสรณ์ เจริญศิริวงศ์ธนา มือเซต ก็เป็นสายเลือดใหม่ทดแทนรุ่นเก่า ที่ต้องไปด้วยเงื่อนไขของวัย ตามกาลเวลา

        เหล่านี้คือนักตบยุคท้าย ที่เล่นร่วมกับ โค้ชต่าย ในสีเสื้อค่ายลูกทัพฟ้า สร้างความเกรียงไกร ให้ระลึกถึงร่วมกัน