เวลาฝรั่งเข้ามาถามทาง หรือขอข้อมูล เราทำอย่างไร...?
คำตอบคือ....หันไปมองหน้าเพื่อนแล้วทำตาปริบ ๆ, ทำเป็นไม่ได้ยิน, เดินหนี, ภาวนาให้ฝรั่งเดินไปถามคนอื่น
คนไทยส่วนใหญ่เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก แถมเรียนต่อในมหาวิทยาลัย บ้างก็ไปเรียนเพิ่มกับสถาบันสอนภาษา แต่พอถึงเวลาต้องพูดกับฝรั่งทีไรก็เกิดอาการ “ใบ้กิน” นะจังงัง ไปเสียทุกที จนน่าสงสัยว่าเรียนภาษาอังกฤษมาก็เยอะ ทำไมถึงพูดไม่ได้
นักภาษาศาสตร์ มาช่วยกันไขปริศนาแห่งการฝึกพูดภาษาที่สอง อาทิ ภาษาอังกฤษว่า “ทำอย่างไรถึงจะพูดได้ใกล้เคียงเจ้าของภาษา?” ในงานเปิดตัวแคมเปญ “Guaranteed Results” ของสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท
มร.เบนจามิน ลี ทอมสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจากสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท กล่าวว่า การเรียนภาษาที่สอง อย่างภาษาอังกฤษไม่ได้อาศัยแค่การท่องจำคำศัพท์ หรือไวยากรณ์ แต่เรียนเพื่อให้สามารถใช้ภาษาได้จริง ๆ เหมือนการสอนเด็กแรกเกิดให้หัดพูด ขั้นแรก เด็กจะต้องฟังก่อน จากนั้นเริ่มพูดซ้ำคำต่าง ๆ ที่ได้ยิน และค่อย ๆ พูดประโยคที่ยาวขึ้น โดยเรียนรู้กฎต่าง ๆ เป็นเรื่องสุดท้าย เด็กจะเรียนรู้ ผ่านการสังเกตและฝึกหัด ไม่ใช่การจำคำศัพท์และกฎ จึงอยากให้ทุกคนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อภาษาอังกฤษเสียใหม่ หากอยากเก่งภาษาก็จะต้องฝึกฝน อย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับฝึกหัดเล่นกีฬา ต้องสร้างทักษะ ไม่ใช่มองภาษาอังกฤษว่าเป็นวิชาเหมือนประวัติศาสตร์ หรือภูมิศาสตร์
ด้าน มร. เควิน แอล บอยด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอีกท่านหนึ่ง บอกว่า การวิจัยด้านภาษา ศาสตร์ทั่วโลก ชี้ว่า ระบบการเรียนรู้ที่ได้ผล ควรเลียนแบบการฝึกพูดภาษาพื้นเพ ของมนุษย์ ไม่ใช่แค่การจดจำคำศัพท์ ประโยค หรือกฎต่าง ๆ แต่ควรฝึกให้สมองสามารถใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ ทุกวันนี้ ได้มีการคิดค้นรูปแบบการเรียนรู้ตามธรรมชาติของคน เรียกว่า “natural acquisition process” หรือ “ขั้นตอนการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ” กิจกรรมต่าง ๆ เช่น การฟัง การทำซ้ำ ช่วยให้พูดคุยประโยคที่ยาวขึ้น ทำให้มีความมั่นใจที่จะพูดมากขึ้น และฝึกสมองให้ใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าเป็นทักษะประเภทหนึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์บอกว่า ถึงเวลาที่คนไทยจะเอาชนะความกลัว และหันมาฝึกฝนภาษาอังกฤษในแนวทางที่ส่งเสริม ให้เกิดความมั่นใจและกล้าพูด แทนการท่องจำกันเสียที
+++++++++++++++++++
ตอบโดย... runchoo_man
ผมขอแสดงความคิดเห็นน้อย ๆ ของผมบ้างครับ
ตามความคิดของผม ว่าทำไม คนไทยพูดอังกฤษไม่ได้ ก้อคือ
เป็นเพราะว่า ภาษาอังกฤษ มี ไวยากรณ์ มาคุมไว้แทบจะทุกเรื่องครับ น่ารำคาญมาก
(ทำให้สมองผม มันไม่ค่อยยอมรับ เรียนทีไร มาติดเรื่องไวยากรณ์ ทุกที)
(ใจมันแอนตี้ เพราะทำเรื่องง่ายให้มันยากซะงั้น)
ถ้าภาษาใด ๆ ก้อตาม แค่รู้คำแปล แล้วเอามาเรียงต่อ ๆ กัน แล้วได้ใจความ
จะเข้าใจง่ายมาก และเรียนรู้ได้ง่ายมาก (เพราะแค่รู้คำแปล ก้อใช้ได้แล้ว)
(ฉัน + อยาก+ จะไป+ กินข้าว + ที่ห้างเซ็นทรัล)
แค่เรียงจากซ้ายไปขวา และ ไม่ต้องมีการผันกริยา
ไม่ต้องตัดนู่น เติมนี่ ให้วุ่นวายเหมือนภาษาอังกฤษ
ภาษาไทย จึงเรียนรู้ได้ง่ายกว่าภาษาอังกฤษ เพราะไม่ต้องผันกริยา
ไม่ต้องตัดอะไร ไม่ต้องเติมอะไร ไม่เกี่ยวกาลเวลา
(ง่ายในที่นี้ หมายถึง ง่ายในการสื่อสารให้เข้าใจ และพอที่จะพูดกันรู้เรื่องได้เลย)
(ไม่ใช่หมายถึง การเรียนให้รู้เข้าใจครบถ้วน 100%)
(ถ้าจะให้รู้เหมือนคนไทย ที่ไปทำข้อสอบภาษาไทยได้ อันนี้จะยากมาก)
(เพราะคนไทยเอง ยังทำข้อสอบภาษาไทยไม่ค่อยได้เลยครับ )
เพราะภาษาไทย เรียงจากซ้ายไปขวา ไม่สลับตำแหน่งกัน
ไม่ต้องแปลจากหลังมาหน้า และภาษาไทย ไม่ผันกริยา
โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ผมขออนุญาติใช้คำนี้ครับ "บ้าเวลา" มากครับ
คือ เอาเวลาไปยุ่งกับแทบจะทุกเรื่อง ว่าเรื่องที่จะพูดมันเกิดขึ้นตอนไหน
พูดถึงตอนอดีต พูดถึงตอนปัจจุบัน พูดถึงตอนล่วงหน้าไว้ว่ายังมาไม่ถึง ฯลฯ
แล้วต้องผันกริยาไปตามเวลา ตัดนู่น เติมนี่
ดูหน่วยว่านับได้ หรือนับไม่ได้ วุ่นวายมาก
(ไม่รู้มันจะสนใจไปทำไม ว่าอันไหนนับได้ หรือนับไม่ได้ )
(คำกริยา มันมีหลายร้อยคำก็ยากแก่การจำอยู่แล้ว ยังต้องคูณสาม เพิ่มจำนวนเป็นสามเท่า ให้มันยากซะงั้น)
(และผันไปตามเวลาซะอีก บ้าเวลาจริง ๆ และกฏเกณฑ์ในการผันก้อไม่เหมือนกันอีก บางคำยกเว้นซะงั้น)
ควรจะแค่ เอาแค่คำว่า "เมื่อวาน" , "วันนี้" , "พรุ่งนี้" ไปวางในประโยคก้อพอ ก้อน่าจะเข้าใจได้แล้ว
แต่นี่ผันอะไรกันมากมาย และตัดนู่นตัดนี่เติมนั่น
ทำให้มันยุ่งซะงั้น แต่ทำงัยได้ นั่นมันภาษาเค้า อยากรู้ต้องทำตามมัน
ภาษาไทยเอง ถ้าเราจะจำกันได้ ข้อสอบภาษาไทย ถือว่ายากมาก
ไม่รู้จะต้องให้แยกแยะอะไรมากมายนักหนา เรียนเกินที่จะเอาไปใช้
แต่ ถ้าจะเรียนแค่พอเอาพูดสื่อสารเข้าใจกับคนอื่น ภาษาไทยจะง่าย
เพราะตรงไปตรงมา เรียงจากซ้ายไปขวา เอาคำแต่ละคำมาต่อกันเฉย ๆ และไม่เอาเวลาเข้ามายุ่ง
"แค่เอาสิ่งที่ต้องการจะพูดมาต่อกัน" ก้อใช้ได้เลย
(ความจริงทุกภาษาควรจะเป็นแบบนี้)
ฝรั่งที่มาเมืองไทย มันก้อแค่รู้คำแปลของแต่ละคำเท่านั้นก้อพอ
แล้วหยิบเอามาพูดต่อคำกัน เราก้อเข้าใจตามนั้นเลย แค่สำเนียงเปร่งๆเฉย ๆ
แต่ความเข้าใจถูกตรงเลย เช่น "ผม+อยาก+จะ+ไป+เชียงใหม่" เข้าใจง่ายเลยภาษาไทย
ไม่เหมือนภาษาอังกฤษ
ถ้าเราเรียงคำ ใช้คำ ไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เราจะสื่อสารความหมายผิดไปเลย
นี่คือสาเหตุที่ทำให้คนไทย ไม่กล้าที่จะพูดสื่อสารกับฝรั่ง __________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น