วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อ. คณิน บุญสุวรรณ >> ไม่ต้องนิรโทษกรรม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด

อังคาร ที่ 24 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2554


ไม่ต้องนิรโทษกรรม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
คณิน บุญสุวรรณ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศในขณะนั้น
เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ คณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ได้กระทำการยึดอำนาจโค่นล้มรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรพร้อมทั้งได้ฉีกทิ้ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ให้สิ้นสภาพไปในวันเดียวกัน
จากผลของการยึดอำนาจในวันนั้น ถึงแม้คณะผู้ก่อรัฐประหารจะเรียกตัวเอง และยกย่องตัวเอง จนสูงเกินกว่าจะจินตนาการว่าเป็น “รัฎฐาธิปัตย์” หรือจะสะสมมติตัวเองว่าเป็นผู้วิเศษ หรือเป็นเทวดามาจากไหน ก็ตาม
แต่ในทางนิตินัย ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข อันเท่ากับเป็นการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยมิได้เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ
ในทางพฤตินัย ถือว่าเป็นการแย่งชิงอำนาจมาจากผู้อื่น โดยใช้กำลังทหารเข้าจี้และบีบบังคับ
และในทางทฤษฎีประชาธิปไตย ถือว่าเป็นการ “ปล้นอำนาจ” ของราษฎรผู้เป็นเจ้าของประเทศ
แต่ไม่ว่าจะเป็นผลในทางนิตินัย พฤตินัย หรือทางทฤษฎีประชาธิปไตย ก็ตาม สถานภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น นอกจากจะเป็นผู้ที่ถูกโค่นล้มลงจากอำนาจโดยวิถีทางนอกกฎหมาย แล้ว ยังถูกบีบบังคับและผลักให้ต้องตกเป็นจำเลย เป็นผู้ต้องหา หรือเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาทางการเมือง โดยใช้กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งกฎกติกาหรือกฎหมาย ที่สร้างและกำหนดขึ้นโดยคณะผู้ก่อการล้มล้างรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น
มันเป็นเรื่องแปลก เวลาที่โค่นล้มเขาลงจากอำนาจ ไม่เป็นไปตามวิถีทางของกฎหมาย แต่เวลาจะบีบบังคับให้เขาตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา กลับใช้กฎหมายมาเล่นงานเขาเสียอย่างเต็มที่
เริ่มตั้งแต่ที่มาของกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ บรรดาประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ทั้งหมด ล้วนถือกำเนิดมาจาก คมช. โดยได้ออกแบบเพื่อให้จัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ทั้งสิ้น
ตามด้วยบรรดาองค์กรผู้บังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น กกต. ป.ป.ช. และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คตส. ก็ล้วนเป็นบุคคลที่ คมช. ได้แต่งตั้งขึ้น หรือแม้แต่ใช้กลไกของรัฐ เช่น ตำรวจ ดีเอสไอ หรืออัยการ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้จัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายทั้งสิ้นเช่นกัน
สุดท้าย คือ องค์กรผู้วินิจฉัยกฎหมาย เริ่มตั้งแต่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ซึ่งตั้งขึ้นตามใบสั่งของคณะรัฐประหาร ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี ๒๕๔๙ ซึ่ง คมช. เป็นผู้นำออกมาประกาศใช้ รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นฝ่ายตุลาการ แต่ก็ถูกออกแบบและประกอบด้วยคณะตุลาการซึ่งส่วนใหญ่เคยเป็นปฏิปักษ์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนที่จะถูกโค่นล้มลงจากอำนาจ หรือแม้แต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งถึงแม้จะเป็นส่วนหนึ่งของศาลยุติธรรม แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าศาลยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลฎีกาได้ให้การรับรองอำนาจรัฎฐาธิปัตย์ของคณะรัฐประหาร เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ไปแล้วโดยปริยาย และก็ต้องไม่ลืมเช่นกันว่า คนที่เคยดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาอย่างนายชาญชัย ลิขิตจิตตะ ก่อนการรัฐประหารนั้น หลังการรัฐประหาร ก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลที่ คมช. เป็นผู้ตั้งขึ้นด้วย
ดังนั้น กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งระบบกฎหมายที่ใช้ดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม หรืออีกนัยหนึ่ง อาจพูดได้ว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมและระบบกฎหมายพิเศษเฉพาะกิจที่คณะรัฐ ประหารได้สร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะนั่นเอง
จะเรียกว่ากระบวนการยุติธรรมตามอำเภอใจของคณะผู้ก่อการรัฐประหาร ก็คงจะไม่ผิดนัก
และด้วยเหตุนั้น จึงอาจจะไม่แปลกที่ผลการตัดสินคดีซื้อที่ดินรัชดาซึ่งส่งฟ้องโดย คตส. จะปรากฏออกมาว่าผู้ซื้อไม่มีความผิด ผู้ขายไม่มีความผิด แต่ผู้ที่เซ็นยินยอมให้ภรรยาไปซื้อที่ดินตามกฎกติกาของบ้านเมือง กลับต้องมีความผิดและถูกศาลพิพากษาลงโทษมีกำหนดสองปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าผู้เซ็นยินยอม คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ถูกโค่นล้มลงจากอำนาจและถูกใช้กำลังบังคับให้ต้องตกเป็นจำเลย และผู้ถูกกล่าวหาในหลายคดี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานั่นเอง
เพราะฉะนั้น การที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามสร้างเรื่องให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักโทษหลบหนีคดี และพยายามใช้กระบวนการทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาล จึงเป็นการฉวยโอกาสใส่ร้ายและทำลายความน่าเชื่อถือของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย และใครก็ตามที่ถูกหาว่าเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เพราะอันที่จริง การช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากโทษที่กระบวนการยุติธรรมและระบบกฎหมายที่ก่อกำเนิดโดยคณะรัฐประหาร หลัง ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ พ้นจากความผิดทั้งหลายนั้น ไม่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ทำอะไรผิดและถ้าจะว่าไปแล้ว น่าจะถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ถูกกระทำ หรือเป็น “ผู้เสียหายในคดีอาญา” ที่คณะรัฐประหารเป็นผู้ก่อขึ้น ด้วยซ้ำไป
ทั้งนี้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกตัดสินลงโทษโดยกระบวนการทางการเมืองนอกกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ได้อ้างอิงระบบศาลและระบบกฎหมายตามปกติ ดังนั้น การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะพ้นโทษนั้นได้ ก็ต้องไม่ใช่โดยระบบกฎหมายหรือโดยการนิรโทษกรรม หากแต่ใช้กระบวนการทางการเมืองแบบประชาธิปไตย ซึ่งมีประชาชนเป็นผู้พิพากษา ในลักษณะที่เรียกว่า “หนามยอกเอาหนามบ่ง” หรืออีกนัยหนึ่ง เอาอำนาจประชาชนล้างอำนาจรัฐที่เป็นผลพวงสืบเนื่องจากการรัฐประหาร ซึ่งถ้าการใช้อำนาจประชาชนล้างอำนาจรัฐดังกล่าว ทำได้สำเร็จ ก็เท่ากับว่าประชาชนพิพากษาให้พ้นผิด โดยไม่ต้องมีการนิรโทษกรรม
เมื่อประชาชนพิพากษาโดยผ่านกระบวนการทางการเมืองให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีความผิดแล้ว ต่อจากนั้น ก็ต้องมีกระบวนการที่เรียกว่า “คืนสิทธิทั้งหลายทั้งหมดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เสียไปจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙”
การคืนสิทธิให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่การนิรโทษกรรม และไม่จำเป็นต้องนิรโทษกรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ทำอะไรผิด
ไม่เหมือนกรณีที่ใครบางคนออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหารหลายหมื่นนายพร้อมอาวุธ ยุทโธปกรณ์เข้าปราบปรามสลายการชุมนุมของประชาชน จนมีผู้เสียชีวิต ๙๑ ศพ และบาดเจ็บ ๒,๐๐๐ คน เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน และระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เพราะนั่นเป็นความผิดอาญาร้ายแรงตามกฎหมายไทย เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามหลักกฎหมายสากล และเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมทารุณผิดศีลธรรมตามหลักศาสนา
เป็นความผิดในคดีอาญาที่มีอายุความถึง ๒๐ ปี ที่สำคัญเป็นความผิดที่ต่อให้เทวดาติดปีกบินลงมาช่วย ก็นิรโทษกรรมไม่ได้
ห่วงตัวเองเถอะ หลุดจากวงจรอำนาจเมื่อไร คงได้รู้ว่า บาปกรรมมีจริง นรกมีจริง
ไม่ต้องไปกลัวหรอกว่า จะมีใครมานิรโทษกรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ทำอะไรผิด
พวก ที่ร่วมก่อการรัฐประหารโค่นล้มรัฐรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน รวมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการสั่งฆ่าประชาชน นั่นแหละ ผิดเต็มประตู
ผิดอย่างชนิดที่เรียกว่า “ตายไปแล้ว ก็ยังไม่พ้นผิด”

..............................................................................................

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

จิตวิทยา ในการรีดไถ่...

แก๊งค์รีดไถ่ จะรีดไถ่ได้ ก็ต้องมีเหตุ

หาเหตุ ให้ไม่ได้ ก็ต้องสร้างเหตุให้

เช่น ..
- เอาของโจร มาโยนทิ้งไว้ข้างบ้านแล้วเรียกเจ้าของเค้ามาเก็บ

- หรือไม่ก็ของหายโดยไม่ทราบสาเหตุ... อยู่ในตู้เซฟ ยังหายได้

- แลกเงินต่างประเทศ ไม่รู้สาขาไหนไปโดนอะไรมา
ก็มาชี้เป้า... ไอ้นี้เปล่า มันชอบ มันสนใจ ธนบัตรต่างประเทศ

คือ ที่สนใจเพราะว่าเมื่อก่อนนั้นตัวอย่าง ธนบัตรต่างประเทศ มันเป็น ภาพหยาบ ๆ 3 สี แล้วก็ไม่ชัดมองไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

ผมก็เลย เข้าเน็ตหาภาพชัด ๆ แจ่ม ๆ มาให้ดูกัน

ก็เลยได้ข้อหา เล่น ธนบัตรต่างประเทศ ไป

ก็เป็นธรรมดาของผู้รับเหมา อะไรเลว ๆ ก็ให้ผมเหมาไป

และแล้ว กลวิธี ในการรีดไถ่ ก็จะตามมา... ไอ้นี้โจร ไอ้นี้ขโมย ไอ้นี้โรคจิตชอบกระเป๋า

แล้วไง หายที่ไหน หายยังไง นอนหลับแล้วหาย หายที่บ้าน อ้าวแล้วกูไปรู้จักบ้านมันแต่ตอนไหนว่ะ อุ ๆ ไม่ใช่ หายที่ทำงาน หลับตอนพักเที่ยง ก็เวรทำงานกู กูพัก บ่ายโม่ง ตอนเที่ยงกูยังทำงานอยู่เลย

คือ จะให้เป็นโจรให้ได้นั้นและ เออ ... จบ ๆ ไปเลยนะสาดเอ๋ย

(ออ รร.มึงก็ไม่เคยเข้าไป แล้วไง ที่แท้ก็คนงาน รร.มึงเองไหวตัวก็เลยหนีไป แล้วที่มารังควาญกูนะ ขอโทษกูยังว่ะ ไอ้สัตว์)

- ปล่อยข่าว อันนี้ ประจำปล่อยข่าวไปทั่ว ร้านค้า ร้านอาหาร BiG D ทั่วไปหมด อันนี้สร้างแนวร่วม

- วางยา ยาท้องอืด มันแปลกไง พอทานข้าวปั๊ป สัก 10 กว่านาที ท้องมันอืด ถึง 5 นิ้ว เป็นประจำหลายเดือน แล้วมันก็หันไปตะโกนถาม พวกตราชู "ไม่เห็นมันเป็นอะไรเลย" อันนี้เค้าพูดให้รู้ว่าฝีมือพวกกูเอง พวกตราชู

- ไปทำบุญที่วัด ก็จะต้องมานั่งประกบ ขอดูนั้น ๆ นี้ ๆ โธ่ เอยย มัยเหรอ ออ.. จะว่าผมเอาของโจรไปถวายพระเหรอ ก็ไม่ชั่วขณะนั้นหรอสัตว์

วิธีใช้ชิง...

- ไปกินก๋วยเตี่ยว เอาเด็กมานั่งกินข้าง ๆ แล้วก็แหกปากถาม เอาไปเปล่า เอาไปเปล่า แหกปากอยู่นั้น

กลเกมส์ในการยำเคาร์เตอร์

เหตุ เพราะมีลักษณะการยำออกตัว...
คือ พอมีเหตุ อะไรกับใคร ที่ไหน ก็จะมายำเคาร์เตอร์ เป็นการ ยำ ออกตัว

เป็นมานมนานแล้ว ตั้งแต่มาทำงานที่สาขา ก็โดนยำประจำ 5 - 6 ปี นี้ ไม่ได้หยุดได้หย่อน

เหตุ เพราะฝ่ายการพนักงานเคยอยู่แถวนี้ พวกตราชู ก็อยู่แถวนี้ ก็เลยมี คอนเนคชั่น กับ บริษัทห้างร้านแถวนี้ เช่น แก๊งค์ ไทยทะเล แก๊งค์ ญี่ปุ่น เช่น ผงชูรส ใจ... อี..
อันนี้ เพราะญาติเคยทำงานที่ญี่ปุ่น ก็ร่วมด้วยช่วยกันยำ

*** เทคนิค...
พอมานั่งทำงานใหม่ ๆ ก็ต้องมานั่งรับแลกเงินแล้วครับ
แคชเชียร์ เค้าให้ทำ เค้าคงหวังดีมาก...ถึงมากที่สุด

กลวิธีแลกตังค์

- ทำบุญ ต้องแบ็งค์ใหม่ ๆ คือจะเอาให้ได้ ก็จะมาแลกกันทั้งวัน ครับ ไม่มีอะไรทำ เดินไปเดินมา ก็มาแลกตังค์ บางที่ก็เห็นเราเป็น วัว เป็น ควาย เอาเงินมาสะบัด ๆ ใส่หน้าแล้วก็บอกว่าแลก ๆ นั้น ๆ นี้ ๆ ก็ว่ากันไป พวก ฝ่ายการพนักงาน

- ทำพูดเร็ว ๆ พูดกำกวม อันนี้ก็เป็นประจำ

- ในขณะที่กำลัง นับตัังค์แลก ก็จะพูดเปลี่ยนชนิด ลดชนิดหนึ่ง แล้วไปเพิ่มอีกชนิดหนึ่ง

เป็นเทคนิคที่ ทำมานมนานกาเล แล้ว แล้วก็ยังทำกันอยู่

*** เทคนิค... ให้แต่สลิปไม่ให้เงิน ลืมรับ ก็โดน...

อันนี้ มีมาตลอดเป็นวิธียอดฮิต เผลอเมื่อไรก็โดน

- ทำท่าจะให้ แต่ไม่ได้ให้ทำชวนพูดนั้น ๆ นี้ ถามนั้น ๆ นี้ ๆ

- ให้สลิปแล้วให้หา หมายเลขบัญชี ทำให้ลืมเรื่องรับเงิน

อันนี้ ก็คลาสิคครับ ทำกันมานมนาน แล้วก็ยังทำกันอยู่
เวลา จะยำออกตัว ก็จะมาโผ่ให้โดน เผลอเป็นโดน

*** เทคนิค ทฤษฏีสมคบคิด

- เช่น ส่งคนมาทำคุยเคาร์เตอร์หนึ่ง เพื่อบล็อคเคาร์เตอร์นั้นแล้วส่ง ทีมยำ เข้ามายำ อันนี้เพื่อเน้นเป้าหมายให้แน่นอน เรียกว่ายำให้ตรงเป้า...

- เช่น เอารายการมาเยอะ ๆ แล้วก็ไปที่อื่นมาเอาที่หลัง แล้วก็ให้ แผนกยำ เดินเข้ามาเพื่อจะทำรายการ โดยไม่กดคิว ถึงแม้จะมี จนท.คอยดูแลตรงนี้ เค้าก็จะทำเป็นไม่สนใจ เรียกให้ดูแล ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน อันนี้ ก็ทำให้รู้ว่าโดนแล้ว...

เหล่านี้ยังมีอีกมาก...

*** ทฤษฏี ต้องผิด ต้องเลว ต้องชั่ว

- สลิปต้องหาย เป็นวิธียอดนิยม ไอ้ก๊อฟ นำ้มาเผยแพร่ ให้พวกฝ่ายพนักงานมาใช้ก่อน แล้วก็เป็นที่นิยมกัน แม้แต่ไปช่วยงานสาขาอื่น ก็จะต้องโดน... อันเป็นประจำ ขณะบวกแม๊กไว้แล้วก่อนส่งให้มัน มันยังทำหายไปใบหนึ่งได้ ก็ไม่รู้จะพูดยังไง...

เช็ค ยังเอาไปทิ้งถังขยะ ใ้ห้คนเค้ารื้อค้นถังขยะ แล้วก็หัวเราะกัน สนุก มันปลิวไปไกลนะ จากโต๊ะผม ไปที่ถังขยะ โต๊ะมัน เพราะมันวางไว้ด้านไกล เออ หรือลมมันพัด ก็ไม่น่าจะใช่นะ เพราะทำงานห้องแอร์ อออ... มันเดินได้เองไง สลิปเดินได้ เช็คเดินได้ แบบนี้เป็นต้น

- เช็คหายจากกล่อง เช็คหายมีแต่สลิป ค้นจนทั่ว ดึงกล่องออกมาดูแล้ว ( สมัยนั้นมันเป็นกล่อง) พอวันต่อมา มันมาอยู่บนกล่อง ก็เมื่อวันที่หา ก็ดึงกล่องออกมาทั้งกล่อง ไม่มี พอวันรุ้่งขึ้น มากลับมามี เฮอ ๆๆ

แล้วก็ให้ลูกค้าด่าสั่งสอน หัวเราะกันสนุก ฝากด่า ต้องแม๊ก ๆ ได้จัดให้ เช็คเครียริ่ง ผมก็เลยแม๊ก ตลอด พอแม๊กเข้าก็มาด่าว่าแม๊กทำมัย เสียเวลา ก็ไม่กล้ามาด่าให้เด็กเข้าใหม่ มาด่าแทน... ก็ยังไงก็ต้องโดนด่า ทั้งขึ้นทั้งร่อง

-------------

ปล. แล้วจะทะยอย ๆ เล่าให้ฟัง

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรื่องพระในตู้เซฟ อีกสักครั้ง

ทำมาพูด ว่า เนียน ๆ

ผมไม่ต้องเนียนหลอก เพราะผมไม่ได้ทำ

ถ้าคุณแน่จริง ทำมัยไม่เอา คลิปกล้องวงจรปิด

ให้ฝ่ายวินัย เค้าสอบสวนเลยละคร๊าบบบ

หรือไม่ก็แจ้งความ ให้ตำรวจสอบสวนไปเลยก็ได้

ผมนะอยากให้ทำเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยยย

กล้า ๆๆ หน่อย...

มาทำพูดลอย ๆ ยัดข้อหาลอย ๆ

ไอ้ประเภทมาทำพูด ดิสเครดิตกันแบบนี้ มันถ้อย

มีแต่พวกคนถ้อยเค้าใช้กัน

ไม่ต้องไปรบกวนเขต เค้าเลยยย

ตรงไป สนญ. เลยยยย

เอาให้จบ ไปเลยยไอ้ห่าเอ๋ยย รำคาญ Chipหาย

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แหล่งซื้อขายเงิน (Silver)

1. ร้าน 99 Gold ซอยเพชรบุรี 12 (ฝั่งเดียวกับพันธุ์ทิพย์พลาซ่า) โทร. 080-803-6371, 089-226-2158
www.99golds.com * คุยดีสุด ๆ ครับ (ชื่อคุณแดน)
» เท่าที่ไปมาจะขายเป็นเงินเม็ดไทยครับ ไม่มี Vat7% เป็นร้านแบบชาวบ้าน เข้าซอยไปอาจน่ากลัวซักนิดสำหรับคนไปครั้งแรก แต่เปิดทุกวันครับวันอาทิตย์ไม่หยุด ความจริงคือหยุดนั่นแหละ แต่เค้าอยู่หลังร้านโทรบอกเค้าก่อนแล้วเค้าจะเปิดประตูร้านไว้ วันธรรมดาปิดดึกสะใจ ปิด 3 ทุ่ม ราคาส่วนต่างเมื่อขายเท่าที่สอบถามคือราว ๆ 1,000 ฿/kg. ครับ


2. มาสเตอร์โกลด์ เพลสทีจ ห้างดิโอลด์ สยามพลาซ่า ชั้น 3 ถนนตรีเพชร โทร.02-623-8933, 086-332-2075
» มีขายทั้งเงินไทยและเงินนอก ราคาจะต่างกัน kg ละประมาณ 300-400 มี Vat7% หรือไม่ ไม่ทราบเพราะลืมถาม ทองเสาร์ขายครึ่งวัน อาทิตย์ไม่ขาย ส่วนเงินไม่มีขายเสาร์-อาทิตย์ครับ ที่ร้านเวลาขายถ้าไม่ใช่ของร้าน ร้านจะใช้เครื่องเอ็กซเรย์เช็คเปอร์เซ็นเงินก่อน ร้านเค้าว่างั้นเพราะยังไม่เคยขาย เวลาขายจะต่างกับราคาซื้อประมาณ 700-800 เค้าว่างั้น


3. ที.ดี.ซี. โกลด์ ถนนตรีทอง แขวงวังบูรพาภิรมย์ โทร. 02-622-2612-4 www.tdcgold.com
» ขายเงินนอก วันเสาร์ขายเงินครึ่งวัน วันอาทิตย์ไม่ขาย มี Vat7% เวลาซื้อ ส่วนต่างราคาเวลาขายประมาณ 400-600 แต่รวม Vat เข้าไปก็จะเป็นคร่าว ๆ ก็ 2,400-2,600


4. บริษัท จีแคป จำกัด สถานที่ตั้ง : 266 ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทร. 02-611-1180, 02-611-1199 www.bangkokgoldtrade.com
» ไม่รับซื้อขายเงินเม็ดให้กับคนทั่วไปนะครับ ผมเลยไม่ได้ถามเวลาปิดมา
» เสาร์-อาทิตย์ ปิด

5. ห้างทองน่ำเชียง http://www.namchiang.com/th/ (อิอิ เน้นสปอนเซอร์ของเว็ปครับ)

6. Bangkok assay office 1230-32 new road,bangrak, bangkok 10500 thailand คุณวาทินี จุลยโชค
โทร. 02-630-6290-4, 081-988-7784 http://www.bkkassay.com/eng/index.php
» ซื้อขาย Silver เม็ดเงิน 99.9% ซื้อง่าย ขายคล่อง ร้านมีซื้อขายไม่จำกัดจำนวนนะครับ มีขายตามราคายุติธรรมจากตลาดโลกและรับซื้อคืน ส่วนต่างประมาณ 1,000฿/kg. ครับ ราคา update ทุกนาทีครับ วิ่งตามตลาดโลก

7. Bangkok Asset เจริญกรุง 36 โทร. 02-233-1295
»ผมยังคุยไม่ทันจะจบ ทางร้านก็วางหูใส่แล้วอ่ะครับ (เป็นที่พนักงานคนที่คุยกับผมนะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับร้านครับ)

8. ร้านแม่โจ้ ซ.อินทรพิทักษ์1 วงเวียนใหญ่ 089-672-8002, 02-465-1422 ปิดประมาณ 23:00
* แต่ต้องโทรไปสั่งกับทางร้านก่อน 16:30 ครับ
สูตรการคำนวณราคา = SilverSpot X THB/2.04 + ค่าการตลาดของร้านประมาณ 5 บาท (คำนวณเสร็จสอบถามราคาจากทางร้านเปรียบเทียบ อาจจะใกล้เคียงอยู่ที่การใช้ค่าตัวเลข SilverSpot และ THB)
EXP. SilverSpot = 47.90 THB = 30.00 ราคาประมาณ = 47.90 X 30.00 /2.04 = 704.412 ร้านบวกค่าการตลาด 4.588 บาท เท่ากับขายบาทละ 709 บาท ซื้อ 1 Kg. = 65.6 X 709 = 46,510.40 บาท

AunTonio, เมื่อ 08 April 2011 - 14:29, กล่าวว่า :
ขออนุญาตแชร์ร้านที่เคยไปซื้อมาอีกสักครั้งนะคับ โดยโทรไปล็อคราคาซื้อกับร้านก่อนแล้วโอนตังไปมัดจำส่วนหนึ่ง แล้วไปรับของวันไหนก็ได้ (ผมไปรับวันอาทิตย์ตอนเย็น) ส่วนความน่าเชื่อถืออันนี้ก็ตามศรัทธาอะคับ ร้านดูบ้าน ๆ แต่ถ้าซื้อ 10 โล ผมเห็นว่าร้านมีเงินเม็ดนอกขายยี่ห้อดอกบัว seal ในกระสอบไว้ (คิดว่าพอจะน่าเชื่อถือนะ) เจ้าของร้านบอกว่ายี่ห้อดอกบัวนี้เม็ดสวยและขนาดเท่ากันหมดทุกเม็ด (เท่าที่เขาหยิบมาให้ดูตัวอย่างก็สวยดีนะคับ) ส่วนตอนขายนี่ผมยังไม่เคยขายแต่ร้านบอกว่าส่วนต่างไม่น่าเกิน 1-1.5 พัน฿/kg. (จำไม่ค่อยได้ละอะ)

AunTonio, เมื่อ 24 April 2011 - 22:32, กล่าวว่า :
วันนี้ก็แวะไปร้านแม่โจ้มาครับนั่งเม้ากะเจ้าของร้านอยู่สักพัก คุยเรื่องเงินบ้างนอกเรื่องบ้าง เจ้าของร้านเขาเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก บางท่านรีเควสยี่ห้อดอกบัว จริง ๆ แล้วยี่ห้ออื่นก็ได้นะคับ บริสุทธิ์เหมือนกัน และหากลูกค้าต่างจังหวัดต้องการซื้อก็โทรล็อกราคาโอนเงินมัดจำส่วนหนึ่ง แล้วมารับของวันหลังได้นะครับ (อันนี้ร้านฝากบอกมา)

ส้มโอมือ, เมื่อ 12 April 2011 - 14:59, กล่าวว่า :
วันนี้บริษัทผมปิดแล้ว มีเงินสดพอจะซื้อแร่เงินได้อีกโล (อยากเป็นกองทัพมดที่รวมพลังล้มช้าง) เลยลองแวะไปวงเวียนใหญ่ซอยอินทรพิทักษ์1 ได้เงินกลับมา 1 โล ร้านแม่โจ้เป็นร้านแบบบ้าน ๆ ครับแต่เจ้าของร้านน่ารักนิสัยดีครับ เจ้าของบอกว่าซื้อขายเงินเป็นอาชีพของเขา ถ้าแหล่งรับซื้อใหญ่ยังซื้ออยู่เขาก็รับซื้อตลอดครับ แต่ถ้าแหล่งรับซื้อไม่ซื้อเขาก็คงซื้อเข้าไม่ไหว สำหรับร้านแบบบ้าน ๆ ผมชอบร้านนี้ครับ

ส้มโอมือ, โพสต์ 13-04-2011, 10:28 AM
สิ่งที่เห็นจากการไปสำรวจร้านซื้อขายโลหะเงินแถวซอยอินทรพิทักษ์1 วงเวียนใหญ่ ผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไปลงแถววงเวียนใหญ่ นั่งมอเตอร์ไซด์ไปซอยอินทรพิทักษ์1 สิ่งที่เห็นหน้าถนนใหญ่ก่อนเข้าซอยอินทรพิทักษ์1 เต็มไปด้วยร้านรับซื้อโลหะเงินเต็มไปหมด ในซอยอินทรพิทักษ์1 ก็มีร้านที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโลหะเงินตั้งแต่ต้นซอยถึงท้ายซอย (ซอยไม่ยาว) ถ้าถามความรู้สึกตอนที่กำลังโพสต์ตอนนี้ ผมว่าพื้นที่นั้นเต็มไปด้วยร้านที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโลหะเงินไม่ต่ำกว่า 100 ร้าน (สองฟากของถนนใหญ่และสองฟากของซอยอินทรพิทักษ์1) เดินเข้าไปในซอยอินทรพิทักษ์1 ร้านรับซื้อโลหะเงินเยอะพอควร ร้านไหนมีเงินเม็ดบริสุทธิ์ขายบ้างนะแต่ละร้านก็เป็นร้านแบบบ้าน ๆ ทั้งหมด ร้านไหนเป็นร้านใหญ่สำหรับพื้นที่นั้นบ้างดูไม่ออก

สุดท้ายแวะร้านแม่โจ้ดีกว่า ร้านนี้มีเพื่อนใน WEB แนะนำว่าเจ้าของร้านอัธยาศัยดีและมีเม็ดเงินบริสุทธิ์ขาย ช่วงเข้าไปสุภาพสตรีเจ้าของร้านกำลังหลอมโลหะเงินอยู่ ผมถามว่ามีเม็ดเงินขายมั้ย เจ้าของบอกว่ามีแต่ต้องรอสักพัก สิ่งที่เห็นคือน่าจะมีคนเอาเงินเก่ามาขาย เจ้าของเลยใช้ไฟหลอมแล้วเทใส่บล็อกเป็นแท่ง เวลาหลอมทำให้โลหะทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อหลอมเสร็จเจ้าของร้านจะดูความเงาของเงินในการประเมิน%ความบริสุทธิ์ เงินที่กำลังหลอมอยู่%ความบริสุทธิ์ประมาณ90% เจ้าของร้านมีการแต้มน้ำยาบางอย่างลงไปที่แท่งเงินด้วย แล้วยื่นให้คนขายดูว่าเงินที่เอามาขาย%ไม่ถึง100

ตอนแรกเจ้าของร้านเข้าใจว่าผมจะซื้อเม็ดเงิน 92.5 เมื่อว่างถึงรู้ว่าผมจะซื้อเงินบริสุทธิ์ก็เลยยอมแบ่งให้เพราะเห็นผมเสียเวลานั่งรอแล้ว คุยกันนานพอควรแลกเปลี่ยนความรู้กันและผมสอนTAเจ้าของร้านไปนิดหน่อย สอนมากไม่ได้เพราะผมรู้น้อยมาก ระหว่างคุยกันมีร้านรับซื้อเงินร้านเล็ก ๆ แถวนั้น 2 เจ้า เอาเงินที่เขารับซื้อมาขายต่อให้ร้านแม่โจ้ ที่ผมเข้าใจคือร้านรับซื้อเงินแถวนั้นหลายร้านเมื่อซื้อแล้วก็ขายต่อให้ร้านใหญ่กว่าอีกที ที่เห็นเงินเก่า90% วันที่ผมไปซื้อเขาซื้อจากคนนำมาขายประมาณโลละ 32,000-33,000

เจ้าของร้านแม่โจ้ยอมรับว่าลูกค้าหลายคนกังวลว่าเวลาขาย ซึ่งเจ้าของร้านก็ไม่กล้ารับประกันมากมาย กระแสตื่นเงินช่วงนี้เป็นสิ่งที่เจ้าของร้านไม่เคยเจอมาก่อน เจ้าของร้านมองว่าถ้าราคาขึ้นไปมาก ๆ แล้วถ้าแหล่งรับซื้อใหญ่ไม่รับซื้อ เขาก็คงซื้อกลับไม่ไหว ทางร้านกลัวว่าถ้าแพงมากไม่มีใครซื้อไปใช้งานต่อแล้วเขาจะซื้อไปขายใคร แต่ถ้าตลาดยังมีการซื้อขายอยู่ยังไงเขาก็ซื้อกลับแน่นอนเพราะเป็นอาชีพหลักของเขา ช่วงเวลาที่ราคาผันผวนมาก ๆ หรือช่วงวันหยุดยาวหลายวันทางร้านก็ต้องตั้งราคาซื้อต่ำหน่อยเพื่อความลดความเสี่ยงของทางร้าน

ด้านปัจจัยพื้นฐานผมว่าผมรู้มากพอสมควร ผมบอกทางร้านไปว่ายิ่งราคาแพงไม่ต้องห่วงเรื่องแหล่งใหญ่จะไม่รับซื้อ ของราคาแพงได้แสดงว่าตลาดมีความต้องการซื้อสูงราคาถึงแพง ยิ่งแพงมาก ๆ แสดงว่ามีคนอยากซื้อมากกว่าขายราคาถึงแพง ในความจริงของถูกต่างหากที่จะขายยากกว่า ของถูกแสดงว่าคนอยากขายมากกว่าอยากซื้อราคาถึงถูก เจ้าของร้านมีความคิดจะเก็บเงินออมของทางร้านในรูปทองแท่งแต่ผมบอกว่าเก็บเป็นโลหะเงินเลย ไม่ต้องกลัวว่าเงินแพงแล้วแหล่งใหญ่จะไม่รับซื้อ ของแพงแสดงว่าความต้องการซื้อมากกว่าความต้องการขาย ช่วงนี้เงินจะขึ้นใน%ที่สูงกว่าทองมาก ขนาดผมไม่มีอาชีพเกี่ยวกับเงินผมยังซื้อโลหะเงินเลย

ช่วงแรกที่ผมกล้าซื้อโลหะเงิน เพราะผมเชื่อว่ามีแหล่งรับซื้อเงินเก่าอยู่ถึงผมยังไม่รู้แหล่ง เพชรบุรี 12 มีร้านซื้อขายแค่ร้านเดียวถ้าเขาไม่ซื้อกลับหรือกดราคามากผมก็ไปหาแหล่งรับซื้อเงินเก่า พอผมมาที่อินทรพิทักษ์1 ใช่เลยแถวนี้เป็นแหล่งรับซื้อเงินใหญ่มากไม่ต้องหาแหล่งขายที่อื่นแล้ว แบ่งขายจำนวนน้อยก็ได้ถ้ากลัวเรื่องความปลอดภัยในการพกเงินสดกลับบ้าน เงินจากร้านอื่นก็รับซื้อแต่ต้องดู%ความบริสุทธิ์

เท่าที่ผมเห็นร้านแม่โจ้เขาเป็นคนไทยเชื้อสายจีนอยู่กับเป็นครอบครัวมีพ่อ แม่ ลูก พี่น้อง อาก๋ง อาม่า ร้านบ้าน ๆ ถึงไม่มีเงินมากมายแบบร้านใหญ่ ๆ แต่นี่คืออาชีพหลักของเขา เขาน่าจะต้องรักษาชื่อเสียงของเขานะ

ที่เล่ามาแค่จะบอกว่า ส่วนตัวผมเองผมไม่กังวลเรื่องแหล่งรับซื้อเงินแล้ว ถ้ามีเงินสดมาเพิ่มคงซื้อโลหะเงินเพิ่ม (หลังสงกรานต์น่าจะมีเงินพอซื้ออีก 1 โล) ส่วนทองคำที่มีอยู่ก็จะกอดไว้ ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของร้านต้องมองกันเองนะครับ นานาจิตตังครับ ผมไม่เก่งเรื่องมองคนแต่ผมมองว่าอัธยาศัยดีและเป็นร้านที่ทำมาหากินด้านโลหะเงินเป็นอาชีพหลัก ช่วงนี้ทุกคนคงมุ่งไปหาร้านใหญ่ แต่จะซื้อได้มั้ย ณ เวลานี้ผมให้ความสำคัญกับซื้อแล้วได้ของ ร้านทองที่ผมซื้อทองคำแท่งเป็นร้านใหญ่ พนักงานในร้านไม่ค่อยสนใจเราเลยและรอนานมาก ๆ เจ้าของร้านคงให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกคนแต่พนักงานของร้านพูดยาก ผมสนใจร้านเงินร้านเล็กเพราะลูกค้าคือคนสำคัญของเขา ถ้าเขายุ่งถึงจะต้องรอรอในฐานะคนสำคัญของร้านน่าจะดีกว่ารอแบบพนักงานไม่สนใจเรา ที่ผมพูดหมายถึงร้านทองร้านใหญ่ที่ผมไปซื้อนะ ส่วนร้านทองร้านใหญ่ที่ขายเงินด้วยบริการเป็นไงผมไม่ทราบ ตัดสินใจกันเองและรับความเสี่ยงกันเองนะ เพราะผมก็เสี่ยงเหมือนกันผมแค่รู้จักกับทางร้านในฐานะลูกค้าที่ชอบอัธยาศัยของเจ้าของร้านเท่านั้น

9. ร้านทอง เล่งหงษ์ เยาวราช (เฉพาะสำนักงานใหญ่และสาขา 1) ปิดเวลา 17:30 โทร. 081-869-5575, 02-224-5345 ติดต่อคนชื่อหลงครับ เพราะทางหน้าร้านจะไม่ทราบครับเนื่องจากพึ่งเปิดตลาด ส่วนต่างราคาซื้อขายแปลตามวัน ซื้อขั้นต่ำ 1 kg และที่สำคัญคือ ไม่มี Vat และขายให้นักเก็งกำไรครับ น่าสนใจดีครับ * แต่ทางร้านรับฝากได้ เพียงแค่โอนเงินไปก่อน แล้วไปรับวันหลัง ไม่ต้องไปรับเองเดี๋ยวนั้น

10. ร้านลี้น่ำฮวด อยู่ใกล้ ดิโอลด์สยาม 02-222-6900, 02-222-8248 ปิด 17:00
สูตรการคำนวณราคา = SilverSpot X THB X 15.244/31.104 + ค่าการตลาดของร้านประมาณ 5-7 บาท
EXP. SilverSpot = 47.90 THB = 30.00 ราคาประมาณ = 47.90 X 30.00 X 15.244/31.104 = 704.27 ร้านบวกค่าการตลาด 5.73 บาท เท่ากับขายบาทละ 710 บาท ซื้อ 1 Kg. = 65.6 X 710 = 46,576 บาท

คนหลงอ่าง, เมื่อ 09 April 2011 - 10:37, กล่าวว่า :
ขอโทษอยากบอก เมื่อวานผมไปซื้อเม็ดเงินที่ ร้านลี้น่ำฮวด อยู่ใกล้ ดิโอลด์สยาม เดินจากฝั่งจราจรกลาง (วันเวย์) เลี้ยวซ้ายผ่านตึกแถวสิบห้องฝั่งตรงข้ามเป็นร้านทองลี้น่ำฮวด มีเม็ดเงินขายบริสุทธิ์ 99% เงินนอก ขายตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป คนขายใจดีมีหนังสือธรรมะหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน แจกฟรี โดยเฉพาะเสี่ยคนโต (โสด) สาว ๆ ไปซื้อพูดดีมีแถมค่าน้ำมันรถให้อีก (ผมนั่งรถเมล์ 6.50บาท เลยไม่หล่อแถมปากจัด) รับซื้อคืนหัก 20 บาทครับ เป็นทางเลือกครับไปไม่ถูกโทรถามได้ ปล.ผมไม่ได้ค่าโฆษณาครับ อยากให้เป็นทางเลือกทุกคนครับ.

คนหลงอ่าง, เมื่อ 23 April 2011 - 17:46, กล่าวว่า :
วันนี้ว่างไปเอาเม็ดเงินที่โอนซื้อแล้วฝากไว้ที่ร้านลี้น่ำฮวด เลยขอความรู้จากคุณหนุ่ย เสี่ยหนุ่มรูปหล่อประจำร้าน วิธีคิดราคาเงินเม็ดบริสุทธิ์99.99% โดยเอาราคาเนื้อเงินที่แจ้ง (มุมบนขวามือของเว็บนี้) เช่น 46.72 คูณด้วย น.น.15.244 หารด้วย 31.104 เสร็จแล้วคูณค่าเงินบาท/ดอลล่า 29.937+ค่าการตลาด 5-7บาท = เงินเม็ดบริสุทธิ์99.99% น.น. 1 บาท (= บาทละ 692 ) ถ้าผิดพลาดประการใด โทรสอบถามเองได้ที่เบอร์ 02-2228248 กด 0 นะครับ จะได้ตรวจเช็คราคาเองได้ อ้อ..สอบถามวันนี้ยังยืนยันรับซื้อเงินเม็ดคืน 99.99% ที่ราคา 672 บาท/1บาท (ลดบาทละ 20บาท) ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ถือไว้ที่ 30$/ออนซ์ กอดไว้รอขายที่ 52$/ออนซ์

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทักษิณ คิด เพื่อไทย ทำ

1. เรื่องน้ำท่วม กทม. ก็จะทำเขื่อน ขนาด 10 X 30 ตารางกิโลเมตร ก็ประมาณ 1.8

แสนไร่ แล้วก็จะทำเป็นเมืองใหม่ พร้อมผังเมืองระดับ สุด ๆ ไปเลย แล้วจะนำเงิน

จากไหนมาทำ ก็จะขายที่ที่ได้ ตกตารางวาละ 12,000.- บาท

2. ปรับปรุงลุ่มน้ำ 25 สาย โดยทดน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน และทำการขุดคลอง

เชื่อมแม่น้ำเข้าหากัน เพื่อจัดสรรให้สมดุลกัน โดยประตูกันน้ำ

3. รถไฟฟ้าใต้ดิน 10 สาย ค่าโดยสารตลอดสาย 20.- บาท แล้ว แฟต คอนโด ให้

เช่าในราคาถูก เพื่อคนเพิ่งทำงาน หรือมีรายได้น้อย

4. รถไฟรางคู่ จากชานเมื่องเข้าสู่ กทม. ทุกด้าน รถไฟความเร็วสูง กทม.

เชียงใหม่

5. ภาคใต้ ทำ แลนด์บริด เชื่อม อ่าวไทยกับฝั่งอันดามัน

6. กวาดล้างยาเสพติด หมดใน 12 ด.

7. แก้ไขความยากจน ใน 4 ปี
- กองทุนหมู่บ้าน
- พัฒนา กองทุน ให้เป็น ธ.ชุมชน
- ประชาชน ต้องเข้าถึงแหล่งทุนได้

8. นำ 30 บาท รักษาทุกโรค กลับมา

9. โอท๊อป ต้องเกิดใหม่

10. เพิ่ม งบองค์กร ท้องถิ่น งบชุนชน 25 %

11. การประกันราคาข้าว แล้วนำบัตรเครดิต มาให้ชาวนา รูดซื้อสินค้าในผลิต

12. เพิ่มฐานเงินเดือน ด้วยการ ลดภาษีนิติบุคคลฯ แล้วนำไปเพิ่มฐานเงินเดือน

13. ให้นักศึกษา ที่มีโปรแกรมที่ดี กู้ไปทำกิจการของตัวเอง

14. ลดภาษี กับผู้ซื้อ รถ บ้าน หลังแรกในชีวิต

15. ลดภาษี น้ำมัน หาแหล่งพลังงานใหม่ โดยหาสัปทานในประเทศ
อูกันดา ไอเวอรี่โค๊ต ทำ ไบโอดีเซล พลังงานไฟฟ้าจากลม

16. แจก แท็ปเลต ให้ นร. ใช้ วายฟลาย ฟรี ให้ครูรับจอบเป็นติวเตอร์

17. ทำระบบ สมาร์ทการ์ด ให้เสร็จ

18. ครัวไทย สู่ครัวโลก

19. ให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็น Hub ของภูมิภาค ยกเว้น VISA ให้กลุ่ม

ประเทศ ตะวันออกกลาง มาเที่ยว / รักษา / ตรวจสุขภาพ ประจำปี

20. นำประเทศ เข้าสอดแทรก ในกลุ่ม ศก. ใหม่ บราซิล จีน อินเดีย + ไทย

21. มุ่งการลงทุนสู่แอฟริกา

22. เรื่องศาสนา จะมีทุน ให้ ทุกศาสนา เพื่อกิจกรรมของศาสนิกชนทุก ๆ ศาสนา

23. 3 จว. ทางใต้ จะมีการเลือกตั้ง ผู้ว่าเอง

24. ปรับปรุงการศึกษาไทย สู่สากล ทั้งบุคลากร สื่อการเรียนการสอน

ความแตกต่างระหว่าง แม้ว กับ มาร์ค

ต้องขอยกเครดิตให้คุณทวดเองค่ะ

แม้วเป็นรัฐบาล ต้องอาศัยประชน
มาร์คเป็นรัฐบาลได้ ต้องอาศัยกลุ่มงูเห่า

แม้วทำอะไรมากมาย เพราะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
มาร์คทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องอาศัยพรรคร่วม

แม้ว เก่งแต่ทำ
มาร์ค ดีแต่พูด

แม้ว สร้างผลงานด้วยการกระทำ
มาร์ค สร้างผลงานด้วยการพูด

แม้ว พูด คนฟังกันทั้งโลก
มาร์ค พูด คนฟังมีแต่พวกพ่อยกแม่ยก

แม้ว สั่ง ใคร ๆ ก็ต้องทำ
มาร์ค ต้องฟัง เมื่อมีคนสั่ง

แม้ว ทำสนามรบเป็นสนามการค้า
มาร์ค ทำสนามการค้าให้เป็นสนามรบ

แม้ว โกง ประเทศเป็นเจ้าหนี้
มาร์ค ซื่อ ประเทศเป็นลูกหนี้

แม้ว ขายทุกอย่างที่จะนำเงินเข้าประเทศ
มาร์ค ขายเป็นก็แต่พันธบัตรเงินกู้

แม้ว อยู่ ทำมาหากินคล่อง
มาร์ค อยู่ ข้าวยากหมากแพง

แม้ว ลงพื้นที่ ประชาชนล้อมหน้าล้อมหลัง
มาร์ค ลงพื้นที่ ตำรวจกับทหารล้อมหน้าล้อมหลัง

แม้ว เสนอนโยบาย ประชาชนให้ความเชื่อถือ
มาร์ค เสนอนโยบาย ประชาชนตลกขบขัน

แม้ว บริหาร มีแต่ผลงาน
มาร์ค บริหาร มีแต่สร้างภาพ

แม้ว ยุบสภา เมื่อมีคนเห็นต่างจากรัฐบาล
มาร์ค ปราบ เมื่อมีคนเห็นต่างจากรัฐบาล

แม้ว เรียกประชุมด่วนอยู่บ่อย ๆ เมื่อมีปัญหาเร่งด่วนต้องรีบแก้ไข
มาร์ค ต้องพักผ่อน เพราะเป็นวันหยุด

แม้ว ไม่ค่อยเข้าสภา แต่สภาก็ไม่ค่อยล่ม
มาร์ค เข้าสภาบ่อย แต่สภาก็ล่มมากที่สุดในประวัติศาสตร์

แม้ว เป็นทุนนิยมสามานย์ แต่ทำให้ประเทศเจริญรุดหน้า
มาร์ค เป็นเศรษฐกิจพอเพียง แต่กู้มาแจก กู้มาโกง จนประชาชนเป็นหนี้

แม้ว อยู่ ประชาชนเดือดร้อน รีบลงพื้นที่
มาร์ค อยู่ ประชาชนเดือดร้อน ต้องรอก่อน

แม้ว อยู่ อาเชี่ยนต่างเกรงใจ
มาร์ค อยู่ เราต้องคอยเกรงใจอาเชี่ยน

แม้ว โชว์ กินไก่ ตอนประชาชนไม่กล้ากินไก่ เพราะกลัวไข้หวัดนก
มาร์ค โชว์ ใส่เสื้อชูชีพในเรือท้องแบน ที่มีน้ำแค่เข่า ตอนไปดูน้ำท่วมที่โคราช

แม้ว โชว์ ไม่ใส่ผ้าปิดจมูกที่สนามบิน ตอนคนไม่กล้าเดินทางเข้าประเทศ เพราะกลัวไข้หวัดซาร์ส
มาร์ค โชว์ ใส่รองเท้าบูทโดยมีคนช่วยประคอง ตอนไปดูน้ำท่วมที่ใต้

และสุดท้าย รัฐบาลแม้วเป็นจ๊อกกี้ โดยมีกองทัพเป็นม้า ส่วนรัฐบาลมาร์คกลายเป็นม้า โดยมีกองทัพเป็นจ๊อกกี้