วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไขปริศนาคนไทยสปีกอิงลิชไม่ได้

เวลาฝรั่งเข้ามาถามทาง หรือขอข้อมูล เราทำอย่างไร...?

คำตอบคือ....หันไปมองหน้าเพื่อนแล้วทำตาปริบ ๆ, ทำเป็นไม่ได้ยิน, เดินหนี, ภาวนาให้ฝรั่งเดินไปถามคนอื่น

คนไทยส่วนใหญ่เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก แถมเรียนต่อในมหาวิทยาลัย บ้างก็ไปเรียนเพิ่มกับสถาบันสอนภาษา แต่พอถึงเวลาต้องพูดกับฝรั่งทีไรก็เกิดอาการ “ใบ้กิน” นะจังงัง ไปเสียทุกที จนน่าสงสัยว่าเรียนภาษาอังกฤษมาก็เยอะ ทำไมถึงพูดไม่ได้

นักภาษาศาสตร์ มาช่วยกันไขปริศนาแห่งการฝึกพูดภาษาที่สอง อาทิ ภาษาอังกฤษว่า “ทำอย่างไรถึงจะพูดได้ใกล้เคียงเจ้าของภาษา?” ในงานเปิดตัวแคมเปญ “Guaranteed Results” ของสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท

มร.เบนจามิน ลี ทอมสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจากสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท กล่าวว่า การเรียนภาษาที่สอง อย่างภาษาอังกฤษไม่ได้อาศัยแค่การท่องจำคำศัพท์ หรือไวยากรณ์ แต่เรียนเพื่อให้สามารถใช้ภาษาได้จริง ๆ เหมือนการสอนเด็กแรกเกิดให้หัดพูด ขั้นแรก เด็กจะต้องฟังก่อน จากนั้นเริ่มพูดซ้ำคำต่าง ๆ ที่ได้ยิน และค่อย ๆ พูดประโยคที่ยาวขึ้น โดยเรียนรู้กฎต่าง ๆ เป็นเรื่องสุดท้าย เด็กจะเรียนรู้ ผ่านการสังเกตและฝึกหัด ไม่ใช่การจำคำศัพท์และกฎ จึงอยากให้ทุกคนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อภาษาอังกฤษเสียใหม่ หากอยากเก่งภาษาก็จะต้องฝึกฝน อย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับฝึกหัดเล่นกีฬา ต้องสร้างทักษะ ไม่ใช่มองภาษาอังกฤษว่าเป็นวิชาเหมือนประวัติศาสตร์ หรือภูมิศาสตร์

ด้าน มร. เควิน แอล บอยด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอีกท่านหนึ่ง บอกว่า การวิจัยด้านภาษา ศาสตร์ทั่วโลก ชี้ว่า ระบบการเรียนรู้ที่ได้ผล ควรเลียนแบบการฝึกพูดภาษาพื้นเพ ของมนุษย์ ไม่ใช่แค่การจดจำคำศัพท์ ประโยค หรือกฎต่าง ๆ แต่ควรฝึกให้สมองสามารถใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ ทุกวันนี้ ได้มีการคิดค้นรูปแบบการเรียนรู้ตามธรรมชาติของคน เรียกว่า “natural acquisition process” หรือ “ขั้นตอนการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ” กิจกรรมต่าง ๆ เช่น การฟัง การทำซ้ำ ช่วยให้พูดคุยประโยคที่ยาวขึ้น ทำให้มีความมั่นใจที่จะพูดมากขึ้น และฝึกสมองให้ใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าเป็นทักษะประเภทหนึ่ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์บอกว่า ถึงเวลาที่คนไทยจะเอาชนะความกลัว และหันมาฝึกฝนภาษาอังกฤษในแนวทางที่ส่งเสริม ให้เกิดความมั่นใจและกล้าพูด แทนการท่องจำกันเสียที

+++++++++++++++++++
ตอบโดย... runchoo_man

ผมขอแสดงความคิดเห็นน้อย ๆ ของผมบ้างครับ
ตามความคิดของผม ว่าทำไม คนไทยพูดอังกฤษไม่ได้ ก้อคือ

เป็นเพราะว่า ภาษาอังกฤษ มี ไวยากรณ์ มาคุมไว้แทบจะทุกเรื่องครับ น่ารำคาญมาก

(ทำให้สมองผม มันไม่ค่อยยอมรับ เรียนทีไร มาติดเรื่องไวยากรณ์ ทุกที)
(ใจมันแอนตี้ เพราะทำเรื่องง่ายให้มันยากซะงั้น)

ถ้าภาษาใด ๆ ก้อตาม แค่รู้คำแปล แล้วเอามาเรียงต่อ ๆ กัน แล้วได้ใจความ

จะเข้าใจง่ายมาก และเรียนรู้ได้ง่ายมาก (เพราะแค่รู้คำแปล ก้อใช้ได้แล้ว)

(ฉัน + อยาก+ จะไป+ กินข้าว + ที่ห้างเซ็นทรัล)

แค่เรียงจากซ้ายไปขวา และ ไม่ต้องมีการผันกริยา
ไม่ต้องตัดนู่น เติมนี่ ให้วุ่นวายเหมือนภาษาอังกฤษ

ภาษาไทย จึงเรียนรู้ได้ง่ายกว่าภาษาอังกฤษ เพราะไม่ต้องผันกริยา
ไม่ต้องตัดอะไร ไม่ต้องเติมอะไร ไม่เกี่ยวกาลเวลา

(ง่ายในที่นี้ หมายถึง ง่ายในการสื่อสารให้เข้าใจ และพอที่จะพูดกันรู้เรื่องได้เลย)


(ไม่ใช่หมายถึง การเรียนให้รู้เข้าใจครบถ้วน 100%)


(ถ้าจะให้รู้เหมือนคนไทย ที่ไปทำข้อสอบภาษาไทยได้ อันนี้จะยากมาก)


(เพราะคนไทยเอง ยังทำข้อสอบภาษาไทยไม่ค่อยได้เลยครับ )


เพราะภาษาไทย เรียงจากซ้ายไปขวา ไม่สลับตำแหน่งกัน
ไม่ต้องแปลจากหลังมาหน้า และภาษาไทย ไม่ผันกริยา

โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ผมขออนุญาติใช้คำนี้ครับ "บ้าเวลา" มากครับ
คือ เอาเวลาไปยุ่งกับแทบจะทุกเรื่อง ว่าเรื่องที่จะพูดมันเกิดขึ้นตอนไหน
พูดถึงตอนอดีต พูดถึงตอนปัจจุบัน พูดถึงตอนล่วงหน้าไว้ว่ายังมาไม่ถึง ฯลฯ

แล้วต้องผันกริยาไปตามเวลา ตัดนู่น เติมนี่
ดูหน่วยว่านับได้ หรือนับไม่ได้ วุ่นวายมาก
(ไม่รู้มันจะสนใจไปทำไม ว่าอันไหนนับได้ หรือนับไม่ได้ )

(คำกริยา มันมีหลายร้อยคำก็ยากแก่การจำอยู่แล้ว ยังต้องคูณสาม เพิ่มจำนวนเป็นสามเท่า ให้มันยากซะงั้น)

(และผันไปตามเวลาซะอีก บ้าเวลาจริง ๆ และกฏเกณฑ์ในการผันก้อไม่เหมือนกันอีก บางคำยกเว้นซะงั้น)

ควรจะแค่ เอาแค่คำว่า "เมื่อวาน" , "วันนี้" , "พรุ่งนี้" ไปวางในประโยคก้อพอ ก้อน่าจะเข้าใจได้แล้ว

แต่นี่ผันอะไรกันมากมาย และตัดนู่นตัดนี่เติมนั่น
ทำให้มันยุ่งซะงั้น แต่ทำงัยได้ นั่นมันภาษาเค้า อยากรู้ต้องทำตามมัน

ภาษาไทยเอง ถ้าเราจะจำกันได้ ข้อสอบภาษาไทย ถือว่ายากมาก
ไม่รู้จะต้องให้แยกแยะอะไรมากมายนักหนา เรียนเกินที่จะเอาไปใช้

แต่ ถ้าจะเรียนแค่พอเอาพูดสื่อสารเข้าใจกับคนอื่น ภาษาไทยจะง่าย
เพราะตรงไปตรงมา เรียงจากซ้ายไปขวา เอาคำแต่ละคำมาต่อกันเฉย ๆ และไม่เอาเวลาเข้ามายุ่ง

"แค่เอาสิ่งที่ต้องการจะพูดมาต่อกัน" ก้อใช้ได้เลย

(ความจริงทุกภาษาควรจะเป็นแบบนี้)

ฝรั่งที่มาเมืองไทย มันก้อแค่รู้คำแปลของแต่ละคำเท่านั้นก้อพอ
แล้วหยิบเอามาพูดต่อคำกัน เราก้อเข้าใจตามนั้นเลย แค่สำเนียงเปร่งๆเฉย ๆ

แต่ความเข้าใจถูกตรงเลย เช่น "ผม+อยาก+จะ+ไป+เชียงใหม่" เข้าใจง่ายเลยภาษาไทย

ไม่เหมือนภาษาอังกฤษ
ถ้าเราเรียงคำ ใช้คำ ไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เราจะสื่อสารความหมายผิดไปเลย

นี่คือสาเหตุที่ทำให้คนไทย ไม่กล้าที่จะพูดสื่อสารกับฝรั่ง __________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น