วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

ที่มาของตำรา ที่ใช้ทำลายผม.. บัญญัติ 10 ประการของ CIA นี้เอง

มาดูกันว่าเค้าปรับใช้กับผมอย่างไรกัน...

บัญยัติ 10 ประการ ของ CIA ในการต่อต้านลัทธิคอมมิวนิส

โดย นาย จอน ฟอร์เตอร์ ดาลัส อดีต รมต.
ผ่านทาง บุตรบุญธรรม นาย พ_น์ ส...สิน


โดย อจ. สุพจน์ ด่านตระกูล


1. ใช้ทุกสิ่งทุกอย่าง ล่อลวง และ ทำลายเยาวชน ของพวกเค้า (พวกเค้า = พวกคอมฯ / เสื้อแดง / เป้าหมายที่เป็นบุคคลก็ได้) อย่างสุดความสามารถ
ปลุกปั่น พวกเค้า ให้ดูหมิ่นเหยียดหยาม และก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง ถึงขึ้นคัดค้านความคิดและการศึกษา ที่พวกเค้าได้รับมาแต่เดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำราลัทธิคอมมิวนิสต์ (หรืออื่น ๆๆ ก็ได้ที่เค้ายึดถือ) ช่วยพวกเค้า สร้างอารมณ์ และโอกาส แห่งการปล่อยตัวปล่อยใจทางกามราคะ ยั่วยุพวกเค้าให้ก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง มีสัมพันธ์ สำส่อน ให้พวกเค้าไม่รู้สึกละอายต่อความเบาปัญญา ฟุ้งเฟ้อ จะต้องทำลายล้าง จิตใจมานะบากบั่น ทรหดอดทนที่ พวกเค้า เคยมี ให้สิ้น.....

( อันนี้ ถ้าเสนอแนะอะไร จะต้องตามคัดค้าน ห้ามคิดพัฒนาอะไร จะต้องค่อยบ่อนทำลาย จะต้องว่าเลว ชั่ว ไม่ดี หรือเหยาะเย้ยถากถาง ต้องค่อยวางยา พร้อมข้ออ้างสารพัด หรือเช่น ถ้าไปปิ้งกับใครรักใคร ก็ต้องตามไปบ่อนทำลาย ยือหยุดฉุกกระชากบ่อนทำลาย พูดจา เลว ๆ ใส่หรือยัดคำพูดไม่ที่ไม่ดี ใส่ปากผม แล้วช่วย ๆ กันพูดว่าผมพูด แล้วเอาไปปล่อยข่าว แบบนี้ก็ทำ ทำให้เข้าใจกันผิด ทำลายความสัมพันธ์ หรือว่าไปเสี้ยมสอนทำเป็นหวังดี ต้องเล่นตัวไปเรื่อย ๆๆ รักกันต้องยากส์ซิ ถึงจะมีราคา หรือ ไปเที่ยวปั่นหัวให้คนมาชอบซ้อน บาง ทางฝ่ายผม / และฝ่ายผู้หญิง และ ค่อยยุยงส่งเสริม ร่วมด้วยช่วยกันทำลาย เพื่อเป็นข้ออ้างว่าที่ทำนี้ หวังดีกับน้องเค้า ฯลฯ )


2. จะต้องทำงานการโฆษณา ทุกอย่าง เท่าที่จะทำได้ อย่างสุดความสามารถ
รวมทั้งภาพยนต์ หนังสือ โทรทัศ วิทยุกระจายเสียง และ การเผยแพร่ ศาสนา ในรูปแบบใหม่ ขอแต่เพียง ให้พวกเค้า ใฝ่ฝัน ในรูปแบบ เสื้อผ้า อาหาร การอยู่อาศัย การสัญจร การบันเทิง และการศึกษาแบบเรา ก็ถือว่า สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว...

( ทำประจบ เอาใจคนนั้นคนนี้ นี้ถ้ามาซบใต้กระโปรงฉันนะ เธอจะได้รับการดูแลเอาใจใส่แบบนี้ ถ้าไม่จะไม่มีใครคุยด้วย ไม่บอกอะไร เป็นหมาหัวเน่า จะมีแต่คนตามจับผิด ตามด่า ตามเยาะเย้ย เย้ยหยัน ส่อเสียดล่อเลียน แม้กระทั้งเด็กเล็กก็ไม่เว้น ต้องมาซบใต้ชายกระโปรงฉัน )

3. จะต้องชักนำความสนใจ ของเยาวชน ของเค้า ให้หันเหไปจากการถือรัฐบาลพวกของเค้าเป็นจุดศูนย์ร่วมที่สืบทอดกันมา ให้ความคิดอ่านของเค้าไปร่วมศูนย์อยู่ที่ การแสดง การกีฬา หนังสือ กามตัญหา การแสวงหาความสุข การละเล่น ภาพยนต์ และ อาชญากรรม ความเชื่องมงายในศาสนา...

( อะไรที่ผมชอบ จะ้ต้องขัดขวางทำลาย เช่น ไปทำบุญ ทำสังฆทาน ที่ท่ารถจอดจะต้องให้คนขายของมารังควาญ บังคับให้ซื้อ จอดนาน ๆๆ ไม่ยอมไป ไปถึงแล้วก็ไม่ให้ใครยินดีตอนรับ ให้รังเกียจ โดยปล่อยข่าวว่าเป็นโจร เป็นขโมย จะได้เบื่อไม่ไป หรือชอบสาวคนไหน ก็จะตามพูดสนตะพายให้เค้า เสียหาย ถ้ามาควงกับผม แล้วก็ไปเอาอีบ้าที่ไหนซักคนที่สนตะพายได้ครอบงัมได้ มาชอบซ้อนมาทำอาละวาดใส่ หรือ ไปเอาคนสวย ๆๆ มาล่อให้สนใจ กะว่าถ้าเพลอก็จะทำทะเลาะแล้วชิงไป อันนี้ต้องระวัง )


4. จะต้องให้ก่อเกิดกระแสคลื่นกวนน้ำให้ขุ่นอยู่เสมอ
แม้จะไม่มีเหตุการณ์ อะไรก็ตาม ร่วมถึงจะต้องโกหกก็ตาม แล้วให้ประชาชนพวกเค้าแสดงการวิภาควิจารย์อย่างเปิดเผย... ดังนี้ จะเป็นการปลูกฝั่งพืชแห่ง ความแตกแยกในความคิดของพวกเค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะต้องหาโอกาศดี ในชนชาติส่วนน้อยของพวกเค้า สร้างความอาฆาตใหม่ เป่าความแค้นเก่าให้ลุกโชน เรื่องนี้เป็นนโยบายที่จะมองข้ามมิได้โดยสิ้นเชิง...

( ไอ้นี้ สปาย สนญ. ไอ้นี้พวก สตง. เงินขาดอีกแล้ว ไอ้นี้แน่ ๆ เลย มือมันไว ไอ้นี้ กันท่าน้อง ๆ ไม่ให้ก้าวหน้า ฯลฯ )


5. จะต้องสร้างข่าวขึ้นมาไม่ขาดระยะ สร้างความอัปลักษณ์ แก่ผู้นำของเค้า...

ผู้สื่อข่าวของเราควรจะฉวยโอกาศเข้าสัมภาษณ์ พวกเค้า หลังจากนั้น ก็จัดเรียงถ้อยคำของพวกเค้า ไปโจมตีพวกเค้าเอง ในสถานที่นานาชาติ การถ่ายรูปจะต้องสนใจเป็นพิเศษ มันเป็นโอกาศที่ดีที่สุด ในการสร้างความอัปลักษณ์ ให้แก่พวกเค้า เราจะต้องอาศัยความเป็นไปได้ทุกอย่าง ให้แก่ประชาชนพวกเค้า ค้นพบ(เอง) โดยมิได้ตั้งใจว่า..ผู้นำพวกเค้ามีแต่ความอัปลักษณ์ พิกลพิการ ต่ำช้า โสโครก...


( การแย่งหญิง ก็เที่ยวพูดว่า ไอ้นี้ไม่รักจริง หลอกฟันบาง ไอ้นี้มีเมียแล้ว บาง เวลาพูดอะไร ก็จะต้องตามเบรคตลอด ช่วยกันโห้ห่า พูดอะไรก็ต้องเอาไปตีความทุกคำ แล้วก็ว่ามันอย่างนั้น มันอย่างนี้
หรือ ไม่ก็ สร้างสถานการณ์ ให้เป็นโจร ไม่ได้หยุดได้หย่อน ตังค์ขาดเยอะ ๆ บาง กระเป๋าโจรมาโผล่ข้างบ้านบาง โจรกดเอทีเอ็ม หน้าสาขาขณะผมเดินออกจากสาขาบาง ฯลฯ ไม่ได้หยุดได้หย่อน เช็คนำมาฝาก ไม่ทำ เชิดเช็คเค้า บาง ฯลฯ เชิดรายการเค้าบาง )


6. ไม่ว่าจะอยู่ภายสภาวะใด เราจะต้องป้าวร้อง ประชาธิปไตย (หรือในสิ่งที่ตัวเองถือหางอยู่) เมื่อมีโอกาส ก็จะต้องรีบปลุกระดมการเคลื่อนไหว(ในสิ่งที่ตัวเองถือหาง) ในทันที ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือ ขนาดใหญ่
จะมีรูปแบบ หรือไม่มีรูปแบบ ก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในกาละเทศะใด ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะใด เราล้วนแต่เรียกร้อง ประชาธิปไตย (หรือในสิ่งที่ตัวเองถือหางอยู่) ในทันที....ขอแต่พวกเราทุกคน พูดอย่างเดียวกันไม่ได้ขาด ประชาชน พวกเค้าก็จะต้องเชื่อว่า สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง แม้จะโกหกก็ตาม เราได้มาหนึ่งคน ก็นับได้ว่ามาหนึ่ง เราครองพื้นที่ ได้มาหนึ่ง ก็ถือได้ว่าครองมาหนึ่งพื้นที่ จะต้องทำทุกอย่างไม่ว่าจะด้วยวิธีการอย่างไร (ทำทุกอย่างไม่เลือก ว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกอย่างไร) และ องค์กร และ เจ้าหน้าที่ทางการค้า ของเรา ล้วนต้องไม่ถือการ ครองตลาดการค้า เป็นเป้าหมายสุดท้าย เป็นอันขาด เพราะตลาดการค้าพริบตาเดียว ก็สูญเสียไปได้ ถ้าแม้ยังไม่ได้ยึดครองตลาดการเมืองเอาไว้ได้...

( จะต้องไปหาคู่แข้ง แล้วมาทำยกยอป้อปัน พูดอะไรก็ต้องว่าดีว่างาม ค่อยแหกปากเชียร์ ร่วมหัวกันเชียร์ และถ้าผมพูดอะไร ทำอะไร ก็ต้องผิด ต้องเลว ต้องชั่ว ต้องจับผิดคำพูด คำพูดทุก ๆ คำต้องมาตีความ หาีที่ผิดมาให้ได้ ถ้าทำงานอะไรก็ต้องค่อยวางยา บ่อนทำลาย เช่น พวกแก๊งค์ ญี่ปุ่น )


7. เราจะต้องยุยงส่งเสริมให้ รัฐบาลพวกเค้า ใช้จ่ายสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่งเสริม ให้พวกเค้ากู้หนียืมสิน จากพวกเรา ดังนั้นเราก็จะมีความมันใจเต็มที่ ในการทำลายล้างเครดิต พวกเค้าได้
เราให้เงินตราของพวกเค้า ราคาถูก เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขอเพียงแต่พวกเค้าเสียการควบคุมราคาสินค้าไปแล้ว ในจิตใจของประชาชน ของพวกเค้า ก็จะพังทะลายโดยสิ้นเชิง...


( ส่วนหนึ่งก็บอกว่าหวังดีให้ประหยัด แต่อีกทางหนึ่ง ก็บีบให้ ซื้อรถ ซื้อบ้าน ทำบัตรเคดิต ซื้อมือถือ ต้องอุดหนุนร้านค้าที่เป็นพวกมัน ไม่งั้น พวกกูวีนแตก มีรุ่มยำ ต้องใช้บริการพวกกู ทั้งที่ทำงาน/ตลาดร้านค้าต่าง ๆๆ แล้วบอกว่าเป็นวิชาการตลาด นับว่าเป็นวิชาการตลาดต่ำช้าที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา)



8. เราจะต้องใช้ความได้เปรียบทาง ศก.และ ทางเทคโนโลยี โจมตี อุตสาหกรรมของพวกเค้า ทั้งที่ มองเห็นและมองไม่เห็น เพียงแต่อุสาหกรรมของพวกเค้า เป็นอัมพาต ไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เราก็จะสามารถปลุกระดมความปั่นป่วนของสังคมขึ้นมาได้ แต่ทว่าภายนอกแล้ว เราจะต้องแสดงให้เห็นว่า ได้ช่วยเหลือเกื้อหนุ่น พวกเค้า ด้วยความเมตาการุณาปราณี อย่างเต็มที่ ดังนั้น รัฐบาลพวกเค้า จะอ่อนปวกเปียกอย่างเห็นได้ชัด ... รัฐบาลที่อ่อนปวกเปียกก็จะนำมาซึ่งความปั่นป่วน ที่ใหญ่ยิ่งขึ้น และ รุนแรงยิ่งขึ้น...


( พยายาม มะรุ่ม มะตุ่ม รุ่มกันตบทรัพย์ หรือให้ เสียสมาธิในการทำรายการ เช่น แหกปากคุยกันข้ามหัวไปหัวมา อยู่นาน เพื่อหวังผลให้ทำงานพลาด / ส่งพวกแขกอินเดีย มาตอนจะปิดสาขา มาเป็นกลุ่น ทำพูดคุยดัง ๆๆ กัน ทำวุ่นวาย ทำเสร็จแล้ว ปิดสาขาแล้วก็ยังปล่อยให้มาแลกเงิน อีก เดินดื่อ ๆๆ เข้ามา แลก แบ็งค์ร้อย แบ๊งค์ห้าร้อย รปภ. ไม่ต้องไปพูด เป็นหนี้บุญคุณพวกมัน ก็ต้องทำวางเฉยปล่อยผ่าน นี้คือการนัดแนะเตี้ยมกันมา มีแบบนี้อีกมากและก็ทำกันมานานแล้ว แล้วก็ทำมาตลอดหลายปี จะเอาให้ยุบ เอาให้เหี่ยว ตบทรัพย์ไม่ได้ ทำหน้าเสียใจ ตบได้ก็จะเฮกัน เป็นจิตวิทยาในการ ทำลายจิตใจในการทำงาน ทำให้เกิดความท้อแท้ในการทำงาน มีส่งคน มาชี้ชวนให้ลาออก มาทำนั้นซิ นี้ซิ รายได้ดี เหอะๆๆ แล้วทำมัยมันไม่ลาออกไปละว่ะ )



9. เราจะต้องใช้ทรัพยากร บรรดามี แม้นกระทั้ง การยกมือ ยกเท้า พูดจา ยิ้มหัว ก็ล้านแต่สามารถทำลาย ค่านิยมที่สืบทอดกันมาได้ แล้วจะใช้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไปทำลายจิตใจแห่งศิลธรรม ตามวิสัย พวกเค้าให้พินาศ
ทำลาย หัวกุญแจแห่งความภาคภูมิใจ และความเชื่อมั่น ในตัวเองให้สิ้นเชิง ซึ่งก็คือ โจมตีจิตใจ มานะบากบั่น ความทรหดอดทน อย่างสุดความสามารถ


( ส่งมา เงินเยอะ ๆๆ แหลก ๆๆ เกณสลิป มา เยอะ ๆๆ มาก็มาทำหยาบ ๆๆ คาย ๆๆ ใส่ ทำกร้างใส่ ทำหน้าทำตา เป็นเจ้านาย Bossy ใช้คำพูดเยาะเย้ยถากถางตลอดเวลา เด็ก อ่อน โง่ )



10. ส่งอาวุธ ยุทโธปกรณ์ อย่างลับ ๆ ให้กับผู้ที่เป็นศัตรูของพวกเค้า และผู้ที่อาจจะเป็น ศัตรู ของเค้าทั้งหมด


(ไม่ใช้แค่ อาวุธ ยุทโธปกรณ์ แต่ร่วมถึง ข้อมูล การคำปรึกษา ร่วมทั้งการฝึกอบรม ต่าง ๆๆ อีกด้วย)


( อันนี้ มีการเสี้ยสอน กลวิธี ในการยำเคาร์เตอร์ ให้คนนอกได้รู้ และบอกว่าเป็นการยำเทส ให้ช่วยด้วยร่วมกัน หรือเป็นการยำ เพื่อออกตัว เช่น พวกเดียวกันพลาดแบบนี้ โดนแบบนี้ ก็จะเกณ สลิปแบบนี้ กลวิธีแบบนี้ เพื่อแสดงว่าการพลาดแบบนี้เกิดขึ้นได้ ฝ่าย พนง. ตัวดีเลย ปัญหาแลกตังค์ แลกกันทั้งวี่ทั้งวัน ทำบุญ ขอใหม่ ๆๆ แคชเชียร์ ไม่รับ โยนให้เทเลอร์ 5555 กลัวจัดกลัวมาก แล้ว กูไม่กลัวหรือไงว่ะ ถึงกับสมคบคนนอกมาเล่นงานกู เพื่อออกตัวก็ยังเอา )








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น