************************************
บทนำ...
ถ้าเรื่องใดไม่มีใน มหากาพย์ นี้แล้วก็จงอย่าไปหาจากที่ใดอีกเลย....
" What is not here is nowhere else "
( เพราะนี้คือที่สุดแล้วแห่งการประชันสภา )
*********
..........ในแว่นแคว้นใหม่ที่ ภราดรปาณแดง ได้รับแบ่งปันมา ทักษิฐิระ พลิกผืนดินแห้งแล้งกันดารและ มีแต่หนี้ ให้เป็นราชอาณาจักรที่มั่งคั่ง
มาร์คทุรนทุราย อิจฉาและทำ เฟ่ะฟ่ะจนอับอายขายหน้าระหว่างหาเสีย
เนื่องจากสำคัญผิดว่า ชาวนาคือคะแนนเสียงที่ด้อยค่า เมื่อพ่ายแพ้ต่อการประชันสภาจนถูกหัวเราะเยาะ ใส่ "มาร์คทุรนทุราย" ก็กลับไปเลียนแผลที่รังวิบัติของตน
มาร์คทุรนทุราย มุ่งมั่นหาทางประดิษฐ์คำคิดทำลายล้างฝ่ายปาณแดง ให้จงได้
..........มาร์คทุรนทุราย ปฏิบัติตามคำแนะนำของ สี่กุเสา ลุงเจ้าเล่ห์ และนักชาญสภา ที่มีคนรู้จักและไม่มีใครรู้จัก และรู้จักแต่ไม่รู้ว่าเป็นนักชาญสภา โดยเชิญ ทักษิฐิระ มาเล่นการประชันสภากัน
เป็นที่ทราบกันดีว่าการประชันสภาเป็นจุดอ่อนของลูกพี่ลูกน้องของตน ทักษิฐิระ ตกลงรับคำเชิญ ด้วยเชื่อมั่นในเชิงสภา
..........เนื่องจากความทุ่มเทอยู่ในการประชันสภา ทักษิฐิระ จึงวางเดิมพันและสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินเกิดที่รักยิ่ง ชื่อเสียง เงินทอง บุคคลที่อันเป็นที่รัก ฯลฯ และต้องยังต้องระหกระเหิน ไปอยู่ต่างแดน
ความสำคัญของธรรมะ
เทราออปที กล่าวตำหนิ ทักษิฐิระ ว่าเฉื่อยชา และไม่ยอมกระทำการใด ๆ เลย เมื่อตอนไปประชุมที่เมืองแห่งนกอินทรีย์
เนื่องจากเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฝ่ายมาร์คทุรนทุราย ทำสภากล สู้ลุกขึ้นมารบกันเสียเลยจะไม่ดีกว่าหรือ
ทักษิฐิระ ปฏิเสธอย่างเรียบเฉย เราจะรักษาคำพูด กล่าวคือ ตัดสินใจปฏิบัติตามธรรมะของเรา
ธรรมะ (แปลได้ความหมายต่าง ๆ หลากหลายว่าเป็นหน้าที่ทางสังคมบ้าง ความชอบธรรมบ้าง หรือ ระเบียบจักรวาลบ้าง) คือภาระผูกมัดทางศีลธรรม
ซึ่งมนุษย์แต่ละคนควรสำนึก และปฏิบัติตาม หากปฏิบัติตามไม่ได้เสียแล้วก็จักเป็นอันตรายต่อวิถีปฏิบัติ และแนวคิดแห่งจักรวาลทั้งหมด
********
สงคราม ใกล้เข้ามาแล้ว
เมื่อ...
มาร์คทุรนทุรายปฏิเสธการคืนสภาให้ เหล่าภราดรปาณแดง ลูกพี่ลูกน้องของตน
อ้างว่าฝ่ายปาณแดงออกมาชิงสภาก่อนเวลากำหนด ต้อง ปฏิรูป เสร็จก่อนจึงออกมาได้
มาร์คทุรนทุราย พยายามขอการสนับสนุนจาก ปริศนา
เช่นเดียวกับ อรชร ปริศนา ให้ อรชร เลือกก่อนว่าจะเอากองทัพทั้งหมดของ ปริศนา หรือจะเอา ปริศนา ไว้เพียงองค์เดียว
อรชร เลือก ปริศนา ยอมให้ มาร์คทุรนทุราย ได้กองทัพของ ปริศนา ไปทั้งหมด
*********
มาร์คทุรนทุราย มักจะไม่ฟังคำเตือนใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะมั่นใจแน่นอนว่า ทวยเทพไม่ได้ให้พรแก่ ฝ่ายปาณแดง พระเจ้าจะไม่คุ้มครอง ฝ่ายปาณแดง ในสงคราม
มาร์คทุรนทุราย นึกถึงคำดำรัสของบิดาว่า ธรรมะของนักรบคือ จึงกล่าวว่า “วิถีแห่งนักรบคือยึดมั่นอยู่กับชัยชำนะ ไม่ว่าบนวิถีนั้นมี ธรรมะ หรือ อธรรมะ อยู่ก็ตาม”
...เมื่อ มาร์คทุรนทุราย นึกได้เช่นนั้นแล้วจึงกล่าววาจาออกไป
“ข้าฯ ขอสังเวยชีวิตของข้า ความมั่งคั่งของข้าฯ ราชอาณาจักรของข้าฯ ทุกสิ่งทุกอย่างของข้าฯ
แต่ข้าฯ ไม่มีวันอยู่ร่วมอย่างสันติกับพวกปาณแดงได้ ข้าฯ จะไม่ยอมจำนนต่อพวกปาณแดง ถึงที่สุดแม้กระทั่งว่าตราบใดที่แผ่นดินมีที่เพียงให้ปักเข็มหมุดเล่มเดียว”
*******
มาร์คทุรนทุราย หาข้ออ้างเข้าข้างตนตามนิสัยดั้งเดิม
ว่า “ทวยเทพสร้าง ข้าฯ ขึ้นมาเป็นอะไรก็ตาม ข้าฯ ก็จะเป็นในสิ่งนั้น”
*******
อรชร...
เวลานี้พี่น้องเราถูกความละโมบเข้าบดบังดวงตา ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะมองไม่เห็นโทษของการทำลายวงศ์ตระกุลและญาติมิตร
แต่เราสิสหาย เรานั้นเห็นโทษภัยดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง ก็ไฉนเราจึงไม่เลี่ยงจากบาปนั้นเล่า
------------
ปริศนา...
ไม่เสียใจกับสิ่งที่สูญเสียไปกับไม่ดีใจในสิ่งที่ได้มา หลักปฏิบัติเพียงเล็กน้อยนี้หากใครสามารถทำตามได้ เขาย่อมสามารถพาตนเองข้ามมหันตภัยแห่งชีวิตอันใหญ่หลวงและบ่วงแห่งกรรมนั้นได้
"รบเถิด อรชร หากท่านตายในสนามรบ สวรรค์ยังรอท่านอยู่ ยังเปิดประตูรอผู้ปราชัย"
*******
กองทัพของทั้งสองฝ่ายโถมประทะเข้าบดขยี้กัน เสมือนหนึ่งมหาสมุทรสองมหาสมุทรประทะกัน
ณ รังสกุณา ข้างทำเนียบได้กล่าวไว้ว่า “เป็นทัศนียภาพอันงดงามยิ่ง”
“พระองค์ทรงเห็นความงดงามในความตายของมวลมนุษย์
บทกวีของพระองค์แต้มแต่งด้วยโลหิต และเสียงร่ำให้ของคนกำลังตาย
คือ คีตสังคีตของพระองค์”
สภา ปฏิรูป คีตา