วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ฮุนเซนแฉมาร์คส่งสุเทพมาพบ 3 ครั้ง เคยเจรจาลับน้ำมัน ประวิตรถือเอกสารคุยเตียบัญ ที่ ตาเคมา…

ข่าวทีวี ช่อง 3

http://www.youtube.com/watch?v=ZpgBPoUEzRU&feature=player_embedded

อ่าน นสพ.

POST TODAY on-line 13 ก.ย. 2554, 20:17 น.

เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เผยแพร่ข้อมูลหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ และเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่รายงานคำกล่าวของนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เคยเจรจาลับเรื่องน้ำมัน โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรมว.กลาโหมของไทยเป็นผู้ถือเอกสารมาเจรจา

นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวว่า หลังองค์การปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา ได้ประกาศข่าวเกี่ยวกับการเจรจาลับ มีสมาชิกสภาของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ พร้อมกับคนอีกจำนวนหนึ่ง โจมตีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีการเจรจามีผลประโยชน์กับกัมพูชา ยืนยันว่ามีการเปิดการเจรจาอย่างเปิดเผย โดยมีคณะกรรมการร่วม 2คณะ คือ คณะหนึ่งสำหรับกำหนดเขตแดน และอีกคณะเกี่ยวกับพื้นที่พัฒนาร่วม แต่ยังไม่มีความเห็นชอบใดๆทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ในการเจรจายอมรับว่า มีการแบ่งส่วนออกเป็น3 โซน ตรงกลางแบ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่ที่อยู่ใกล้ไทยกว่า ตอนแรกแบ่ง 10-90 ต่อมาเอา20-80 ส่วนพื้นที่ข้างกัมพูชา 80-20 ส่วนกัมพูชาเสนอกลับไปว่าให้แบ่งเป็นบล็อค ๆ แล้วจับฉลากเลือกแต่ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ซ่อนเร้นตามที่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา แต่ต่างจากรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ขณะนั้น ไม่ได้เตรียมตัวหารือกับสุเทพ และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่อย่างใด

“นายสุเทพมากัมพูชาสามครั้ง ครั้งแรกในเดือนเมษายน มาไกล่เกลี่ยเพื่อรับรองให้ไปพัทยาร่วมการประชุมอาเซียน หลังจากมีเรื่องในสภาไทย ที่กษิต ภิรมย์ เรียกผมว่าเป็นนักเลง ภายหลังนายสุเทพก็มากัมพูชาอีกพร้อมกับรัฐมนตรีกลาโหมแต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องน้ำมัน วันที่ 27 มิถุนายน ภริยาผมทำอาหารเลี้ยงส่วนตัว คือทำแกงเลียง3 ให้เขารับประทาน หากแต่เรื่องที่แปลกคือนายสุเทพได้เอาเอกสารแผนที่เกี่ยวกับบล็อคน้ำมันในทะเลมาด้วยและได้แจ้งว่านายอภิสิทธิ์ได้แต่งตั้งเขาให้มาเจรจาให้เสร็จภายในสมัยของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ แต่ได้แจ้งกลับไปว่า ผมมีรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเจรจาเรื่องนี้ ไม่สามารถเป็นคู่เจรจากับ ฯพณฯได้”นายฮุนเซน กล่าว

ฮุน เซน กล่าวพาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ว่า ถ้าไม่ชัดเจนก็อย่าพูด นำคนต่อต้าน ผมไม่ต้องการพูดถึง หรือว่าผมต้องสอนอภิสิทธิ์อีก เมื่อตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน ผมก็สอนแล้วสอนอีก ตอนนี้ผมยังต้องสอนอีกหรือ ผมขอแนะนำไปถึงอภิสิทธิ์ และสุเทพที่กรุงเทพฯ ว่า ใครคนไหนหอบเอาเอกสารมาที่บ้านผมที่ตาเคมา สุเทพรับรู้เรื่องนี้ และกล่าวต่อว่า“ใครคนไหนหอบเอาเอกสารไปที่ตาเคมา ผมไม่รับรู้ด้วย ดังนั้น ขอให้ฝ่ายไทยไปดูไปตรวจสอบให้ถูกต้องถึงมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญไทย เรื่องที่มาลักลอบเจรจาลับอย่างนั้น

นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวอีกว่า “ตอนนี้ ตั้งแต่ออกจากตำแหน่ง อภิสิทธิ์ก็มาโจมตีว่าเนื่องจากรัฐบาลไทย (ยุคอภิสิทธิ์) ไม่สนองผลประโยชน์ของกัมพูชาทำให้ไม่ถูกกัน ผมก็จะแจ้งกลับไปที่อภิสิทธิ์ว่า ถ้ารัฐบาลก่อนไม่ถูกกันแล้ว ใครคนไหนที่ส่งคนมาเจรจาลับ ไอ้ที่ลับเป็นอะไร?” แล้วกล่าวต่อว่า “เขาต้องการรู้เรื่องลับนี้ไหม ถ้าต้องการรู้ว่าลับหรือไม่ลับ ต้องเริ่มต้นที่ตาเคมา จ.กัณดาล ฟังให้ชัดผู้นำเอกสารมา คือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เตีย บัญ ลี ยงพัต และคำปูน ซท6 ได้เห็นเอกสารนี้”

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

นิวส์วีคยกย่อง’ทักษิโณมิกส์’เรียกทักษิณว่า “นักคิดทางเศรษฐกิจผู้ยิ่งใหญ่”


Posted by: Jess on สิงหาคม 25, 2008

นิวส์วีค นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกาที่เคยขึ้นปก 4 ผู้นำในเอเชียและมีรูปของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นหนึ่งในผู้นำทั้ง 4 คนรวมอยู่กับนายหม่า อิง จิ่ว ผู้นำของไต้หวันนายลี เมียง บัก ประธานาธิบดีนักธุรกิจของเกาหลีใต้ และ นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ภายใต้บทความที่นำเสนอในชื่อว่า The Politics of Practical Nostalgia หรือ การเมืองแห่งการโหยหาอดีตที่ทำได้จริง

ล่าสุดนิตยสารนิวส์วีคฉบับประจำวันที่ 1 กันยายน 2551 ซึ่งออกวางตลาดในเร็วๆนี้ได้ลงตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอีกครั้งในบทความที่มีชื่อว่า A Leader Who Looms/ ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่าน โดยเนื้อหาของบทความชิ้นนี้ได้ยกย่อง “ทักษิโณมิกส์” ว่าเป็นนโยบายที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชียอย่างกว้างขวาง มีผู้นำในแถบเอเชียหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียแม้กระทั่งประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดียก็ยังเดินตามรอย “ทักษิโณมิกส์” ของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย

แถมไม่พลาดที่จะเหน็บพวกปัญญาชนว่า “พวกปัญญาชนผู้รอบรู้เคยหัวเราะเยาะทักษิณแต่นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมของเขากำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเชีย”

นอกจากนี้นิวส์วีคยังกล่าวยกย่องชมเชยกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของทักษิณที่ออกมาในรูป “นโยบายคู่ขนานหรือทักษิโณมิกส์” ว่าเป็น“ความคิดที่ฉลาดหลักแหลม” พร้อมเอ่ยชมอดีตนายกฯทักษิณว่าเป็น “นักคิดทางเศรษฐกิจผู้ยิ่งใหญ่”

โดยในตอนท้ายนิวส์วีคสรุปว่า “นโยบายคู่ขนานที่เฉียบแหลม” นั้นมันทำงานได้ผลจริงๆ

สำหรับ George Wehrfritz แห่งนิตยสาร NEWSWEEK ผู้เขียนบทความ A Leader Who Looms/ ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่านนี้เคยเขียนบทความเรื่อง Buddhist Economics/พุทธเศรษฐศาสตร์ มาแล้วเมื่อต้นปี 2007

ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่าน

ถอดความภาษาไทยโดย Thinking in ink

พวกปัญญาชนผู้รอบรู้เคยหัวเราะเยาะทักษิณแต่นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมของเขากำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเชียแม้กระทั่งจวบจนวาระที่เขาอำลาประเทศไทย

โดย จอร์จ เวอห์ฟริซส์
นิตยสารนิวส์วีคระหว่างประเทศ
ฉบับวันที่ 23 สิงหาคม 2551

ในศัพท์ทางการเมือง คุณทักษิณ ชินวัตรไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่า “ผู้สูญเสียอำนาจ” เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วอดีตนายกรัฐมนตรีแอบดอดเดินทางไปต่างประเทศมุ่งสู่คฤหาสน์หลังงามในอังกฤษของเขาอย่างเงียบๆ เป็นการจบความคาดหวังที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าการกลับคืนสู่มาตุภูมิด้วยความภาคภูมิใจในชัยชนะของเขาเมื่อเดือนมกราคมอาจเป็นลางบ่งบอกถึงการหวลกลับคืนสู่เวทีการเมืองระดับชาติอีกครั้งจากที่ต้องลี้ภัยอยู่หลายเดือนหลังถูกโค่นล้มอำนาจจากการทำรัฐประหารอย่างไม่เสียเลือดเนื้อเมื่อปี 2549

การลี้ภัยแบบคาดไม่ถึงของมหาเศรษฐีพันล้าน(เหรียญสหรัฐ) ผู้สร้างฐานะด้วยตนเองครั้งนี้ก่อให้เกิดการถกเถียงถึง ความถูกต้องของข้อกล่าวหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ ทั้งเรื่องที่ทางกรุงเทพฯ ควรดำเนินการเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่และตัวจักรทางการเมืองของคุณทักษิณในอนาคต

แต่แทบไม่มีการกล่าวถึงผลงานที่อยู่ยืนยงสถาพรของคุณทักษิณเลย นั่นคือ: “การพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานราก” ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา ในการโปรโมทตัวเองนิดหน่อยอย่างไม่ต้องอาย คุณทักษิณประทับตรายุทธศาสตร์การพัฒนานี้ว่า “ทักษิโณมิกส์” ยุทธศาสตร์นี้ถูกนำไปใช้ในการรณรงค์หาเสียงว่าเป็นนโยบายเพื่อยกระดับฐานะของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตที่เขาลงสมัคร (ชาวไทยชนบท) ให้พ้นจากความยากจน นโยบาย "ทักษิโณมิกส์" ถูกนำไปใช้ปฏิบัติจริงหลังจากที่เขาชนะเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลเมื่อปี 2544

นักวิพากษ์วิจารณ์ได้ประณามนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของคุณทักษิณว่าเป็น “นโยบายประชานิยมที่ผลาญเงินงบประมาณอย่างมหาศาล” แต่ผู้ที่ไม่ยอมรับนโยบายของทักษิณเหล่านี้ต้องรีบเปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว เมื่อนโยบายประชานิยมอย่าง การพักหนี้เกษตรกรและกองทุนหมู่บ้านได้กระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการผลิตและบริการให้เกิดขึ้นในระดับรากหญ้าและการปรับปรุงสวัสดิการพื้นฐานที่อ่อนแอของประเทศไทยให้ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดให้มีโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค (เกือบฟรี) ได้ช่วยปลดปล่อยครัวเรือนในชนบทให้เกิดการออมน้อยลงและออกไปจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น (ยกระดับการบริโภคภายในประเทศ) คุณทักษิณเรียกยุทธศาสตร์นี้ว่า “การพัฒนาแบบคู่ขนาน” หรือ “การพัฒนาเศรษฐกิจทวิวิถี” ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์จากตลาดภายในประเทศมากขึ้นควบคู่ไปกับภาคการส่งออกและมันทำงานได้ผลจริงๆ

ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ซูซิโล บัมมัง ยุดโดโยโนได้เดินตามรอย “ทักษิโณมิกส์” ในการช่วยเหลือครัวเรือนที่ยากจนที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นโดยออกมาตราการใช้เงินอุดหนุนพยุงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเพื่อไม่ให้คนยากจนต้องใช้น้ำมันแพง หรือ นายมันโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีของอินเดียได้ริเริ่มโครงการสร้างงานในชนบทหลายล้านตำแหน่ง ความต้องการในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขาสะท้อนให้เห็นถึงการเดินตามนโยบายประชานิยมของทักษิณเป็นอย่างมาก หรือ ประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ที่ครั้งหนึ่งเคยประกาศว่า “ฉันเป็นสานุศิษย์ของทักษิโณมิกส์อย่างไม่อาย” และนับตั้งแต่ปี 2549 เมื่อจีนเปิดตัวโครงการขนาดยักษ์ใหญ่เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางการลงทุนของรัฐที่ต้องการเนรมิตโครงการ “การพัฒนาชนบทตามแนวทางสังคมนิยมรูปแบบใหม่” ขึ้นในพื้นที่ชนบทห่างไกล ทางปักกิ่งได้ยกเลิกภาษีการเกษตรทั่วประเทศ จัดสรรเม็ดเงินหลายร้อยล้าน (เหรียญสหรัฐ) ให้กับอุตสาหกรรมในชนบทและนอกจากนี้ยังหาหนทางเพื่อช่วยฟื้นฟูจังหวัดที่ยากจนทางตอนกลางของประเทศ (ย้อนไปในปี 2003 จีนได้ส่งคณะผู้แทนชุดหนึ่งไปยังประเทศไทยเพื่อศึกษา “ทักษิโณมิกส์” ตามรายงานของทางการจีน)

http://shiningjessica.wordpress.com/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%93%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C/

จากคุณ : WTKn

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

# ทำบุญ เดือน กันยายน 2554

โครงการทำบุญมหากฐิน 4 ภาค

-------------------------
บริจาคทองเหลืองร่วมหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดร

----------------------
กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี

------------------------
เป็นเจ้าภาพใบระกา พระอุโบสถวัดวังน้ำต้อง


-----------------------
เป็นเจ้าภาพถวายต้นเงิน ต้นละ ๕๐๐ บาทสมทบทุนสร้างเจดีย์

----------------------
บุญภาพจิตกรรมฝาผนังพระอุโบสถ วัดฉลองราชฯ

-----------------
"ซุ้มลูกนิมิต+ใบเสมา"พระอุโบสถ วัดฉลองราชฯ

--------------------------
ร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อ “ระฆัง พระพุทธเจ้า 5 พระองค์”

------------------------
วัน เสาร์ ที่ 3 กย. 2554 เป็นเจ้าภาพกระฐิน วัดท่าขนุน 1 กอง

จำนวนเงิน 10,000.- บาท พร้อม เลสคอมือทองคำ 1 เส้น หนัก 2 บาท

(ตอนนับตังค์จะใส่ซอง พอนับเสร็จก็เกิดอยากถวาย ก็แกะตะขอถอดวางเลย ก็เลยได้ถวายไว้ในพระพุทธศาสนาสมใจ....พระท่านก็ถามใส่มาทำมัย ก็เรียนท่านไปว่ามันแพงไม่อยากใส่แล้ว...)

# ทำบุญ เดือน สิงหาคม 2554

เจ้าภาพฉัตรบนหลังคาอุโบสถ 1 ช่อ (วัดฉลองราชฯ)

----------------------
เชิญร่วมสร้างโรงครัว หลวงพ่อจรัญ