วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เรื่องพูดเองเออเอง เพื่อให้เราเสียหาย เพื่อจะได้ด่าลอย ๆ ฟรี ๆ นี้มีประจำ

- คือ พูดว่าเราชอบมองตรงนั้นของสาว ๆ นี้ คือ... จริง ๆ มันเป็นแบบนี้

* เมื่อหลายปีก่อน ผมไปชอบน้อง "อร" อยู่แถวบ้าน เจอเค้าที่ร้านบะหมี่เกี้ยว ข้างบิ๊กซี
เค้าไปทานกับแม่เค้า แต่แม่เค้าก็นั่งบัง ไปบังมา ...

พอดีที่ตรงนั้น ก็มีวินปากซอย เห็นแม่ลูกอ่อน กำลังอุ้มลูกอยู่ ผมก็มองน้องอร แล้วก็ชายตาไปดูเด็ก

ก็ประมาณว่า "ชวน น้องอร มามีครอบครัวกันดีมะ เด็ก ๆ น่าร๊ากกกก น่า...ดูจิ ดูจิ "
คือมันเป็นเทคนิคอะนะ สาว ๆ ก็มักจะชอบเด็ก ๆ ก็ว่าจะใช้เด็กเป็นสื่อ
( อย่าในซี่รี่ย์ Love Rain ก็มีนะ นางเอก มองเด็ก ๆ แล้วยกมือเล่นกับเด็ก แต่ของผมนี้ เก่ากว่า ซี่รี่ย์แล้วนะ มันก็นานหลายปีดีดักแระ )

อ้าวกรรมเวร มันหาว่าชอบไปมอง... ตรงนั้น เอออ แปลกนะ พวกมันคิดกันไปได้
ผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไร การพูดยัดข้อหา ก็เป็นวิธีของพวกตำรวจ เค้าใช้กัน
แล้วก็เสี้ยมสอนกัน สืบ ๆๆ กันมา ไม่ใช่เพิ่งจะทำแต่ก็ทำกันมานมนานแล้ว
เพื่อเป็นการดิสเคดิต เพื่อให้คนรอบ ๆ ตัวเรามองเราอย่างมีอคติ ในทุก ๆ เรื่อง...
แล้ว ก็จะได้ทำพูดด่าลอย ๆ พูดส่อเสียดลอย ๆ เรียกว่า ด่ากันฟรี ๆ ว่างั้น

และก็เป็นการแสดงว่า เค้ามาคุมเชิงเราทุกฝีเก้า จริง ๆ ไม่งั้น ช๊อตแบบนี้ นี้คงไม่ได้เห็นนะ

ลักษณะ แบบนี้ ก็เป็นแบบพวกอำมาตย์ นั้นละ ถามว่าอำมาตย์เป็นอย่างไร ก็เป็นแบบนี้ไง

จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากจะมาอธิบายอะไรหรอกนะ แต่ก็นะ มันก็อดไม่ได้ สักนิดหนึ่ง

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เหตุที่ ฮิตเลอร์เกลียด ยิว... & คอมมิวนิสต์ เป็นกรณีพิเศษ

 ภายหลังสงคราม โลกครั้งที่หนึ่งได้สิ้นสุดลง พร้อม ๆ กับความพ่ายแพ้ของเยอรมัน ฮิตเลอร์เองก็ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการถูกโจมตีด้วยแก๊สพิษจากฝ่ายอังกฤษ เยอรมันถูกจำกัดในทุก ๆ ด้าน ด้วยสนธิสัญญาแวซาย (The Treaty of Versailles) ฮิตเลอร์มีความเชื่อว่า ความพ่ายแพ้ของเขา และกองทัพเยอรมัน เกิดขึ้นมาจากศัตรูที่อยู่ภายใน (Enemy within) มากกว่า ความพ่ายแพ้ต่อกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร เขาเชื่อว่าศัตรูที่อยู่ภายในนั้น หักหลังประเทศเยอรมัน พวกนั้นก็คือ พวกยิว พวก คอมมิวนิสต์ หรือ มาร์กซิส และพวกนักการเมือง สนธิสัญญาแวซายจำกัดทุกอย่าง กองทัพเยอรมันถูกลดลงเหลือเพียง 100,000 คน

เศรษฐกิจของประเทศ เยอรมันถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง ในขณะเดียวกัน ลัทธิคอมมิวนิสต์ ก็เริ่มประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจากการล้มราชวงศ์โรมานอฟ ของพระเจ้าซาร์ในประเทศรัสเซีย และแผ่ขยายเข้าสู่เยอรมัน มีการจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นในเยอรมัน ฮิตเลอร์ซึ่งสังกัดอยู่ในลัทธิชาตินิยมขวาจัด ได้นำกำลังเข้าโจมตีสหภาพแรงงานซึ่งเป็นหัวหอกของพวกคอมมิวนิสต์ ตลอดจนกลุ่มธุรกิจของฝ่ายคอมมิวนิสต์

ผู้นำกลุ่มของฮิตเลอร์ในขณะ นั้นคือ Anton Drexler ประกาศว่า พรรคชาตินิยมของเขาจะไม่มีชนชั้นเหมือนพวกคอมมิวนิสต์ เป็นองค์กรสังคมนิยมชาตินิยม (คอมมิวนิสต์เองก็เป็นสังคมนิยมเช่นกัน แต่เป็นสังคมนิยมแบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งอยู่ในซีกซ้ายจัด) มีการก่อตั้งลัทธิสังคมนิยมชาตินิยมขึ้น เรียกว่า National Socialist German Workers' Party หรือเขียนเป็นภาษาเยอรมันว่า National Sozialistische Deutsche Arbeiter Partei ภายหลังเรียกสั้น๐ว่า National Sozialist หรือ NAZI นั่นเอง

11 พ.ย. 1923 ฮิตเลอร์และพลพรรคนาซีของเขาพยายามทำการปฏิวัติ แต่ไม่สำเร็จ เขาถูกจับพร้อมกับพรรคพวกของเขา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ Munich Putch เขาถูกจำคุก ด้วยโทษ 5 ปี แต่จริง ๆ เขาถูกจำคุกเพียงแค่ 9 เดือนเท่านั้น หนังสือพิมพ์ต่างตีพิมพ์คำให้การ คำสัมภาษณ์ของเขา ที่ต้องการฟื้นฟูประเทศเยอรมัน ระหว่างที่ติดคุก เขาเขียนหนังสือชื่อ การต่อสู้ของข้าพเจ้า (Mein Kampf) ความพ่ายแพ้ของเขาในครั้งนี้ กลับทำให้เขาได้รับความนิยมมากขึ้น

ในเดือน พ.ค. 1927 ถึง 1928 ฮิตเลอร์ถูกห้ามกล่าวคำปราศรัยในที่สาธารณะ และในปี 1928 นี่เองที่ฮิตเลอร์เช่าวิลล่าที่ Obersalzberg ที่นี่เขาได้พบกับ Angela Raubal ซึ่งเข้ามาในฐานะแม่บ้าน ฮิตเลอร์ตกหลุมรักอย่างบ้าคลั่งกับเธอ บางทีอาจจะเป็นครั้งเดียวที่เขาตกหลุมรักในชีวิตของเขาทั้งชีวิต

พรรคนาซีเริ่มได้รับความนิยมอีกครั้งจากการนำทางของ Gregor Strasser ผู้ร่วมงานของฮิตเลอร์ ในขณะเดียว เออร์เนส โรห์ม (Ernest Rohm) คนสนิทของฮิตเลอร์ ก็ได้ก่อตั้งกองกำลัง SA (Strumabtielung) -สตุมอับไทลุง- เพื่อเป็นกองกำลังส่วนตัวของฮิตเลอร์
แต่โรห์ม เริ่มทำตัวเป็นเอกเทศ และมีทีท่าว่าจะไม่สามารถควบคุมได้ กองกำลัง SA เองก็ดูเหมือนจะเชื่อฟังโรห์ม มากกว่า ฮิตเลอร์ ฮิตเลอร์จึงได้ตั้งไฮน์ริช ฮิมเลอร์ นักธุรกิจที่ร่างกายอ่อนแอ และล้มเหลว เป็นนักเพ้อฝัน จัดตั้งกองกำลังเอส เอส SS ขึ้น

ในที่สุด ฮิตเลอร์ก็ตัดสินใจทำลายองค์กร SA ในวันที่ 6 มิ.ย. 1934 ณ โรงแรม Tegernsee 50 ไมล์จากมิวนิค โรห์ม พร้อมกับเด็กหนุ่มคู่ขาของเขา (โรห์มเป็นเกย์ และใช้ SA ในการหาเด็กหนุ่มมาเป็นคู่ขา) ถูกจับ ทหารเอส เอส ได้รับคำสั่งจากฮิตเลอร์ ให้ยื่นโอกาสแห่งเกียรติยศด้วยการฆ่าตัวตายกับ โรห์ม ทหารเอส เอส วางปืนให้เขา แล้วออกมา เวลาผ่านไป 10 นาที โดยที่ไม่มีเสียงปืน ทหารเอส เอส จึงเดินเข้า แล้วจ่อยิงโรห์มจนเสียชีวิต พร้อมกันนั้น หัวหน้าหน่วย SA ก็ถูกจับตัว บ้างถูกขัง บ้างถูกสังหารโดยทหารเอส เอส ซึ่งได้ก้าวขึ้นมาแทนกองกำลัง SA

กองกำลัง เอส เอส ถูกฝึกขึ้นมาเพื่อให้จงรักภักดีต่อฮิตเลอร์อย่างปราศจากคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น และเขาก็ภูมิใจในหน่วยนี้เป็นอย่างมาก เดือน เม.ย. 1934 สุขภาพของประธานาธิบดีฮินเดนเบอร์ก (Hindenburg) ประธานาธิบดีเยอรมันในขณะนั้นไม่สู้ดีนัก เขาเสียชีวิตในวันที่ 2 สิงหาคม 1934 สามชั่วโมงหลังจากนั้น ฮิตเลอร์ได้ประกาศรวมตำแหน่งประธานาธิบดีและและนายกรัฐมนตรี (บางทีเรียกว่าอัครมหาเสนาบดี - Chancellor) เข้าด้วยกันและตั้งตัวเองเป็นประมุขของรัฐและผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือที่เรียกว่า ผู้นำ (Fuehrer) เยอรมันก้าวเข้าสู่ความเป็นเผด็จการสมบูรณ์แบบนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ฮิตเลอร์มีรูปแบบการแต่งเครื่องแบบที่แตกต่างจากจอมเผด็จการอื่น ๆ นั่นคือ เขาไม่นิยมติดเหรียญตรามากมาย เหรียญตราที่เขาติดมีอยู่อย่างเดียว คือ เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็ก (Iron Cross) ซึ่งเขาได้รับจากการรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นเหรียญตราที่ได้มาด้วยความกล้าหาญ

ในขณะที่ฮิตเลอร์ขึ้นดำรง ตำแหน่งนั้น เยอรมันกำลังอยู่ในสภาวะล้มละลาย เศรษฐกิจตกต่ำ คนว่างงานมากมายมหาศาล เมื่อเขาได้เป็นผู้นำ ระหว่างปี 1934 - 1938 เขาทำการสร้างและฟื้นฟูอุตสาหกรรมภายในประเทศอย่างขนานใหญ่ มีการสร้างอาวุธ อย่างชนิดที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน การพัฒนาเป็นไปอย่างก้าวกระโดด เขาฉีกสนธิสัญญาแวซายทิ้งอย่างไม่เกรงกลัว ชาวเยอรมันต่างพากันยกย่องฮิตเลอร์ ในฐานะผู้ที่พลิกโชคชะตาของชาติ จากความล้มละลายกลับสู่ความเป็นมหาอำนาจอีกครั้ง
ฮิตเลอร์ประกาศว่า อาณาจักรไรซ์ที่สามของเขาจะมีอายุยืนยาวนับพันปี

ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มสร้างความมั่นคงภายนอก
เพื่อประวิงเวลาการรุกรานจากภายนอกออก
ไป ทำให้เยอรมันไม่ต้องพะวักพะวนกับสงครามที่อาจจะมีขึ้น และสามารถทุ่มเทให้กับการพัฒนาประเทศได้อย่างเต็มที่ เช่น เซ็นสนธิสัญญาไม่รุกรานกันและกันระหว่างเยอรมันกับโปแลนด์ เพื่อทำให้มั่นใจว่า โปแลนด์ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศสจะไม่รุกรานเยอรมัน หากเยอรมันรบกับฝรั่งเสส หรือในกรณีที่เยอรมันบุกฝรั่งเศส

ในเดือน มีนาคม 1935 ฮิตเลอร์เริ่มสร้างกองทัพอย่างขนานใหญ่ กองทัพอากาศ หรือ Luftwaffe ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ จริงๆแล้วเยอรมันมีการฝึกนักบินมาล่วงหน้านี้อย่างลับๆมากว่าสองปีแล้ว ในนามนักบินพลเรือน

ขณะเดียวกันชาวเยอรมันที่อยู่ในออสเตรีย โปแลนด์ และเชคโกสโลวาเกียต่างก็พากันสนับสนุนรัฐบาลให้เข้าร่วมกับเยอรมัน

วันที่ 27 ก.พ. 1936 ฮิตเลอร์เซ็นสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างเยอรมัน กับรัสเซีย เพื่อสร้างความมั่นใจว่า สงครามทางด้านรัสเซียจะไม่เกิดขึ้น ในขณะที่เยอรมันยังไม่พร้อม

ขณะเดียวกัน กองทัพเยอรมันก็กำลังเตรียมการครั้งใหญ่สำหรับสงคราม กรมทหารใหม่ถูกจัดตั้งขึ้น ทหารผ่านศึกจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ถูกเรียกเข้ามาเป็นครูฝึกให้กับทหารใหม่

วันที่ 7 มี.ค. 1936 ฮิตเลอร์เคลื่อนกำลังเข้ายึดครอง Rhineland โดยอังกฤและฝรั่งเศสไม่มีการต่อต้าน และเป็นการพิสูจน์ว่า สนธิสัญญาแวซายที่จำกัดสิทธิทุกอย่างของเยอรมัน ได้ถูกฉีกทิ้งอย่างสิ้นเชิงโดยเยอรมัน และสันนิบาตชาติ (League of Nations) หมดสิ้นอำนาจลงอย่างสิ้นเชิง


ขณะเดียวกัน กองทัพเยอรมันได้เพิ่มจำนวนถึงกว่าหนึ่งล้านคน ฮิตเลอร์เริ่มมั่นใจมากขึ้นว่า ไม่ว่าอังกฤษ หรือฝรั่งเศส หรือใครก็ตาม ไม่สามารถหยุดยั้งอาณาจักรไรซ์ที่สามได้อีกแล้ว

เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ได้ประกาศเตือนโลกว่า สงครามกำลังใกล้เข้ามา อันตรายรออยู่ข้างหน้า แต่ผู้คนที่หวาดกลัวสงคราม ต่างก็พยายามทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเตือนนี้ โดยเชื่อว่า การประนีประนอมกับเยอรมัน จะทำให้โลกพ้นจากสงครามได้

ต่อมาเกิดสงครามกลางเมืองในสเปน ฮิตเลอร์ไม่รอช้าที่จะส่งรถถัง เครื่องบิน และช่างเทคนิค เข้าไปช่วยในนาม คอนดอร์ (Condor Legion)

ฮิตเลอร์ส่งกองทัพ Condor Legion เข้าไปสนับสนุนสงครามกลางเมืองในสเปน ฝ่ายของนายพลฟรังโก จุดประสงค์ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับกำลังพลของเขา ในขณะเดียวกันอิตาลี ภายใต้การนำของจอมเผด็จการมุสโสลินี ก็ส่งทหารเข้าร่วมกับนายพลฟรังโก กว่า หกหมื่นคน

---------------------------------------


กองทัพอากาศ เยอรมัน (Luftwaffe) ได้ทำการทดลองการใช้เครื่องบินแบบสตูก้า (Stuka) ในการดำทิ้งระเบิด เพื่อพัฒนาเทคนิคต่างๆ เมื่อนำมาใช้ในการเตรียมการรุกแบบสายฟ้าแลบที่เยอรมันได้เตรียมการไว้

ภายหลังสงครามกลางเมืองในสเปน กล่าวกันว่า กองทัพอากาศเยอรมันมีนักบินที่มีประสบการณ์มากกว่าชาติใด ๆ ในโลกทีเดียว

การร่วมกันในสงครามกลางเมืองในสเปน ยังทำให้อิตาลีเข้ามาร่วมเว็นสัญญาเป็นฝ่ายอักษะกับเยอรมันในวันที่ 21 ต.ค. 1936 ทั้งๆที่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 อิตาลีอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเยอรมัน แผนการดึงอิตาลีออกจากฝ่ายสัมพันธมิตรของฮิตเลอร์ประสบความสำเร็จเกินคาด

ในเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน เยอรมันก็เซ็นสัญญา Anti-Comintern กับญี่ปุ่น เพื่อเป็นการรับประกันว่า ญี่ปุ่นจะไม่ทำสัญญาใด ๆ กับรัสเซีย โดยปราศจากการยินยอมของคู่สัญญา โลกได้เกิดฝ่ายอักษะขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว นั่นคือ เยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่น

วันที่ 30 ม.ค. 1937 ฮิตเลอร์ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาไรซ์สตาร์ค (Reichstag) ว่า เป้าหมายของเขาไม่ได้อยู่ที่สงคราม หากแต่อยู่ที่การสร้างชาติเยอรมัน การยกระดับความอยู่ดีกินดีของชาวเยอรมัน การสร้างความมั่นใจให้กับชาวเยอรมันในชีวิตและความเป็นอยู่ รวมไปถึงการสร้างความเป็นมหาอำนาจทางทหารทั้งทางบก เรือและอากาศของเยอรมัน

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 1937 ฮิตเลอร์อุทิศเวลาให้กับการสร้างความสัมพันธ์กับอิตาลี มุสโสลินีตกลงที่จะเดินทางมาเยือนเยอรมันเป็นครั้งแรก

ในปี 1938 นายกรัฐมนตรีของออสเตรียได้รับเชิญให้ไปเยือนเยอรมัน ฮิตเลอร์เรียกร้องให้มีการรวมประเทศ (anexation) Schuschnigg นายกรัฐมนตรีของออสเตรีย ไม่กล้าให้คำตอบ ฮิตเลอร์สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมการโจมตี

รัฐสภาออสเตรีย ทำการขอมติประชาชนชาวออสเตรียว่าจะผนวกดินแดนกับเยอรมันหรือไม่ (ฮิตเลอร์เกิดในออสเตรีย และในออสเตรียก็มีชนชาวเยอรมันเป็นจำนวนมาก) แม้จะมีเสียงคัดค้าน วันที่ 11 มีนาคม 1938 ฮิตเลอร์เรียกร้องให้มีการรวมประเทศ วันต่อมา กองทัพเยอรมันก็ยาตราเข้าสู่ออสเตรีย ประกาศผนวกดินแดนภายใต้ชื่อ Anschluss แท้ที่จริงแล้ว

ผลการออกเสียง ชาวออสเตรียลงคะแนน 99 เปอร์เซนต์ให้ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมัน นับการรวมดินแดนที่ไม่มีการเสียเลือดเนื้ออีกครั้งหนึ่งของฮิตเลอร์ เมื่อ ทหารเยอรมันกรีธาทัพเข้าไปในออสเตรีย ชาวยิวจำนวนมากถูกจับ ค่ายกักกันที่ Mauthausen ได้ถูกจัดตั้งขึ้น และสังหารชาวยิวไปถึง 35,318 คน จนสิ้นสุดสงคราม

ฮิตเลอร์เริ่มมองไปที่เชคโกลโลวาเกียเป็นเป้าหมาย ต่อไป ในขณะเดียวกัน ชาวเยอรมันต่างก็พากันชื่นชมความสำเร็จของฮิตเลอร์และพรรคนาซีของเขา โดยเฉพาะการขยายดินแดนโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ อะไรจะน่าภาคภูมิใจไปกว่า การขยายดินแดนโดยไม่มีการสู้รบ และการสูญเสีย

ซูเดเตน (Sudeten) คือแคว้นหนึ่งในเชคโกสโลวาเกีย มีประชากร กว่าสามล้านครึ่งเป็นเยอรมัน จากประชากรทั้งหมด 10 ล้านคน ผู้คนพูดภาษาเยอรมัน มีวัฒนธรรมเยอรมัน แต่ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมันเลย


------------------------------------------

 ความวุ่นวายจากพวกคอมมิวนิสต์ ในเยอรมัน

ฝ่ายซ้ายนำโดยยิวสองคนชายหญิง..ชายคือ Karl Liebknecht หญิงคือ Rosa Luxemberg หรือสมญาว่า แม่กุหลาบแดงเดือด (Red Rose หรือ Bloody Rose) สองคนนี่ส้องสุมผู้คนนับแสนคนที่จะล้มล้างรัฐบาล

เพื่อเปลี่ยนให้เป็นคอมมิวนิสต์ให้ได้ โดยมีการจลาจลชนิดถึงขั้นนองเลือด..และจวนเจียนที่จะสำเร็จผลเสียด้วย...

หากแต่พวกคณะที่รักชาติ อดีตทหารหาญที่เพิ่งกลับกันมาจากแนวหน้า ได้รวมตัวกันสำเร็จเป็นกองทัพย่อย ๆ เรียกว่า Free Corps เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด เสียเลือดเนื้อล้มตายไปกันมากมาย..ในเดือนมกราคม 1919  การสู้รบได้ผลัดกันแพ้ชนะ ไปจนถึงวันที่ 13 มกรา..
Karl และ Rosa ถูกจับตัวได้..

ถูกซ้อมซะอ่วมไปสองวัน ก่อนที่จะถูกยิงกบาลแบบเผาขนไปทั้งสองคน..ศพแม่แดงเดือดถูกโยนทิ้งในลำคู.. ส่วน Karl นั้น..ทิ้งเป็นที่เป็นทาง คือ ในป่าช้า...

เป็นอันว่า..พวกสปาตาลิสต์ ได้จบบทบาทลงในเบอร์ลิน..แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า..
พวกที่ฝักใฝ่ในลัทธินี้จะหายไปจากพื้นดินเสียเมื่อไหร่..รัฐบาลไม่สามารถใช้กำลังตำรวจเข้าควบคุมทั้งหมดได้ จึงต้องออกประกาศเรียกร้องผู้คนเข้าร่วมขบวนการอาสาช่วยเป็นหูเป็นตา ในการกวาดล้างให้สิ้นซาก เชิญไปสมัครได้ ที่ Buaer Cafe กับ..Potsdam Beer Garden

กองทัพ Free Corps ได้จากเบอร์ลินหลังจากที่ทำการกู้เมืองสำเร็จ..เพียงสองอาทิตย์เอง..เอาอีกแล้ว ก่อการปฏิวัติอีกแล้ว คราวนี้คือ..พวกยิวแดงโดยการหนับหนุนของรัสเซีย {Lenin และ Trotsky}.. จัดการก่อการจราจลชิงเมืองอีกครั้ง..  เพราะคิดเอาเองว่า เคยทำสำเร็จที่ Petrograd กับ Moscow มาแล้ว..ที่เบอร์ลินจะง่ายดังปอกกล้วยเข้าปากเช่น กัน ทั้ง ๆ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยแค่ 5% งานนี้ทำให้รากหญ้าของฝ่ายนิยมซ้ายในเมืองต่าง ๆ เกิดลุกฮือขึ้นมาอีก Saxony ถูกยึดครอง..ต่อมาก็ Dresden ตามด้วยเมืองต่าง ๆ

กองทัพ Free Corps สามหมื่นคน ถูกเรียกกลับมาใช้งานโดยด่วน..คราวนี้..มีการประกาศกฎอัยการศึกใครขัดขืน ยิงทันที การนองเลือดครั้งนี้ ฝ่ายก่อการตายเป็นเบือ บาดเจ็บนับพัน
เบอร์ลินถูกกู้กลับคืนขึ้นมาได้ หากแต่อีกหลายเมืองยังอยู่ในความครอบคลุมของพวกคอมมิวนิสต์

------------------------------------------------------------------------------

รัสเซียเองก็เพิ่งเปลี่ยนการปกครองไปหมาด ๆ จากกษัตริย์มาเป็นกรรมกร ทำให้พวกชนชั้นแรงงานส่วนใหญ่ ฮึกเหิมถึงกับคิดจะเข้ายึดครองในประเทศอื่น ๆ ในยุโรปด้วยลัทธิ (อย่างที่เล่ามาในฮังการี) ยังไม่ได้มีกองทหารเป็นเรื่องเป็นราว มีแต่กลุ่มแทรกแซงที่ เข้าไปสร้างความเดือดร้อนที่นั่นที่นี่ อย่าง Bela Kun

พวกนักรบ Free Corps คือพวกทหารผ่านศึกที่รัฐบาลเรียกกลับมาจากแนวหน้า ที่เข้ามารวมตัวกันไม่ยอมให้ บ้านเมืองตกในมือของคอมมิวนิสต์ ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและรัฐบาลฝ่ายขวา {right wing} ดังเหตุการณ์ครั้งที่ยิ่งใหญ่ในมิวนิค..คอมมิวนิสต์ในการนำของ Levine เข้ายึดครองอย่างเด็ดขาด..

นักรบ FC เก้าพันคน นัดรวมตัวกันที่ Nuremberg เพื่อเคลื่อนทัพเข้าสู่มิวนิค และ เพียงสิบไมล์ก่อนถึง..คือเมือง Dachau (อ่านว่า ดักเฮา) เกิดการปะทะกันขึ้น..
กองทัพคอมภายใต้การนำของ Ernst Tollerชนะ..
นักรบ Free Corps ตายเรียบ..ไม่เหลือ


นี่ คือเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ..ซึ่งฮิตเล่อร์จำไว้อย่างละเอียดละออ..เขาจึงเลือก Nuremberg เป็นศูนย์กลางการประชุมต่างๆ..และ..เลือก..Dachau เป็น..สถานีนรกแก่ศัตรู (หมายถึง Concentration camp แบบจงใจ)

-----------------------------------------------------------------------------

และขอให้คิดดูว่า ฮิตเลอร์ต้องมาพบกับความล่มสลายของอาณาจักรบาวาเรียที่เขารัก ด้วยฝีมือของของยิวเพียงไม่กี่คน

ตามข่าวเล่าว่า..พระเจ้าลุดวิคที่สาม ถูกสั่งให้ขนข้าวของออกจากวัง..ขึ้นรถภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง..และ..ขณะที่รถแล่นออกจากวังไปอย่างช้าๆ พวกคณะยิวปฏิวัติยิงปืนไล่จนรถพระที่นั่งต้องเร่งความเร็วขับหนี เป๋ปัดปุเลง ๆ ลง ไปในไร่มันฝรั่งแบบทุลักทุเล ฝุ่นตลบ..ท่ามกลางเสียงหัวเราะครื้นเครงของเหล่าทหารแดง

----------------------------------------------------------------------------

เป็นเพราะเหตุเหล่านี้ ฮิตเลอร์ จึงจงเกลียดจงชัง ยิว กับ คอมมิวนิสต์ เป็นกรณีพิเศษ...


*************************************************

ตอนที่ 2 ความกลิ้งกลอกและล้มแล้วกระทืบซ้ำ

            หลังจากทำสงครามกลางเมืองได้พักนึงผลัดกันชนะผลัดกันสูญเสีย พวกปฏิวัติเลยยื่นข้อเสนอเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาท
ให้เกลี้ยกล่อมพระบิดาว่าให้ทรงสละตำแหน่งไกเซอร์ซะและยังคงเป็นกษัตริย์ปรัสเซีย โดยให้องค์รัชทายาทขึ้นเป็นไกเซอร์แทน
องค์ไกเซอร์วินเฮล์มผู้ยิ่งใหญ่ อำนาจล้นฟ้ายินยอมประกาศว่าสละราชบัลลังค์หากปัดเป่าภัยสงครามกลางเมืองได้ประเทศร่มเย็นเช่นเดิม
และยังเชื่อว่าตนเองยังมีอำนาจอยู่และจะทำทัพกลับบ้าน  จากข้อตกลงนี้ไก เซอร์ลงพระปรมาภิไธยในเอกสารทุกคนรับประทานอาหารกลางวันอย่างเงียบ สงัด  บรรยากาศเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว และความโทมนัสสิ้นหวัง หนึ่งในความโหดร้ายที่สุดที่ฉันยังพอจำได้ องค์รัชทายาทเขียนไว้ในบันทึก


              หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น มักซ์ ฟอน บาเดนส่งเอกสารให้แก่ผู้นำพรรคโซเชี่ยลโดโมแครตเห็นพ้องต้องกันว่าต้องให้ไก เซอร์สละราชบัลลังค์ทั้งสองบัลลังค์พระองค์ตกหลุมพรางของยิวเข้าแล้วและ รัชทายาทก็ไม่มีบัลลังค์เช่นกัน  ห้าโมงเย็นวันนั้นฮินเดนบวร์กมาแจ้งแก่ไก เซอร์ว่าพระองค์ตกอยู่ในภัยอันตราย พวกปฏิวัติจะเดินทางมาสำเร็จโทษพระองค์เหมือนอย่างพระเจ้าซาร์พระองค์จะต้อง เดินทางในทันทีภัยอันตรายย่างกรายเข้ามาแล้ว ห่างออกไป 50 กิโลเมตรรถไฟจักรพรรดิพร้อมแล้วแต่ไกเซอร์ผู้ไร้บัลลังค์ไม่ยอมขึ้นรถไฟเขา เติบโตมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เขาใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายเผาเอกสารส่วนตัวและในตอนเย็นก็ยอมรับความเป็นจริง ได้ในที่สุดแต่ก็ยังยืนยันว่าจะอยู่ร่วมกับทหารของเขา


              รถไฟออกจากสถานีในเวลาตี 5 อดีตไกเซอร์รับประทานอาหารกับคณะนายทหารผู้ติดตาม รถไฟมุ่งหน้าไปฮอลแลนด์มีทหาร 25 นาย
ถือปืนกลครบมือเฝ้าอารักขาตู้โดยสารของอดีตไกเซอร์ถึงกลางทางคณะเดินทางจำต้องลงจากรถไฟเพื่อโดยสารไปทางรถยนต์ เพราะพวกยิวและ
คณะปฎิวัติกั้นทางรถไฟไว้เพื่อจับอดีตไกเซอร์ไปสำเร็จโทษเหมือนอย่างพระเจ้าซาร์ซึ่งคณะปฏิวัติทำไม่สำเร็จ


              เมื่อข้ามพรมแดนได้อย่างปลอดภัยอดีตไกเซอร์เอาบุหรี่ขึ้นมา จุดสูบ และบอกคณะทหารให้ปฏิบัติตาม "พวกคุณควรได้เสพควันอันหอมกรุ่น" เมื่อ ฟรีดริช โลเซ็น เพื่อนเก่า บัดนี้เป็นรัฐมนตรีเยอรมันในฮอลแลนดืแล้วเดินทางมาถึง อดีตไกเซอร์พูดว่า"ฉันพินาศไม่มีชิ้นดีแล้ว ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างไร ไม่มีความหวังใดๆเหลืออยู่อีกแล้ว นอกจากความสิ้นหวังหมดอาลัยตายอยาก" จักรพรรดิยาวนาน 30 ปี ความยิ่งใหญ่ความทะเยอทะยาน บัดนี้เขาพินาศย่อยยับ สงคราม 4 ปี 3 เดือนทำให้หมดสิ้งทุกอย่าง มันจบแล้วหมดสิ้นแล้วสำหรับอดีตไกเซอร์


***********************

3. ถูกแทงข้างหลัง

                ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1919 สมาชิกรัฐสภาไวมาร์ได้แต่งตั้งชุด Untersuchungsausschuß für Schuldfragen ขึ้นเพื่อสืบหาสาเหตุของสงครามโลกและปัจจัยที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของเยอรมนี ในวันที่ 18 พฤศจิกายน จอมพลฮินเดนเบิร์กได้ให้การยืนยันต่อหน้าคณะกรรมการของรัฐสภา และได้มีการกล่าวอ้างถึงบทความ Neue Zürcher Zeitung ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1918 ซึ่งเป็นการสรุปบทความสองบทความก่อนหน้านั้นในเดย์ลี่ เมล์ ที่เขียนโดยนายพลชาวอังกฤษ เฟรเดอริก บาร์ตัน เมาไรซ์ ด้วยประโยคที่ว่า กองทัพเยอรมันถูก "แทงข้างหลังโดยพลเมืองชาวเยอรมันเอง" (เมาไรซ์ปฏิเสธในภายหลังว่าเขาไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดนี้แต่อย่างใด) การให้ปากคำของฮินเดนเบิร์กนี้เองที่ทำให้แนวคิดดังกล่าวแพร่กระจายไปกว้าง ขวางในเยอรมนีภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง


               แน่นอนว่ามีการสืบหามูลเหตุที่แพ้สงครามเยอรมันชาติแห่งนัก รบแพ้สงครามได้อย่างไร หวยตกไปที่ยิวครับเพราะมีการสืบสาวรามเรื่องแล้วพบว่าไม่ใช่แค่เยอรมันหรอก ที่เกลียดยิว อังกฤษก็เกลียด เพราะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ยิวเยอรมันเอาอาวุธมาขายให้ยิวอังกฤษ และยิวอังกฤษก็เอาอาหารและสินค้าควบคุมขายให้ยิวเยอรมัน(เช่นสารตั้งต้น วัตถุระเบิด) พอมีคนท้วงพวกยิวก็บอกว่ายิวไม่เกี่ยวจะรบก็รบกันไปยิวจะค้าขายกัน ทำให้หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกฝ่ายล่มจมหมดเงินไปกับสงครามเป็นจำนวนมากแต่ว่ายิวกลับร่ำรวยเพราะ สงคราม!!!


              ภาพประกอบจากไปรษณียบัตรออสเตรีย ค.ศ. 1919 เป็นภาพล้อยิวกำลังแทงทหารเยอรมันทางด้านหลังด้วยมีด การยอมจำนนถูกกล่าวโทษแก่ประชาชนที่ไม่รักชาติ พวกสังคมนิยม พวกบอลเชวิค สาธารณรัฐไวมาร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยิว ยิวถูกกล่าวหาว่าไม่รักชาติรักแผ่นดิน
ประมาณว่าเปิดประตูให้ข้าศึกประมาณนั้นแหละครับ


ชาวยิวถึงกะร้องเหยดดดดดดด งานงอกละตูทำไมหวยถึงออกมาในรูปแบบนี้ได้ละ ยิวเลยออกใบปลิวขึ้นมาสู้ข้อกล่าวหาว่ามี"ทหารยิว 12,000 นายเสียชีวิตในสมรภูมิเกียรติยศเพื่อปิตุภูมิ" ใบปลิวซึ่งตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1920 โดยทหารผ่านศึกยิวเยอรมัน ตอบโต้การกล่าวหาการขาดความรักชาติ     

แต่ก็ไม่นำพาชาวเยอรมันแท้ซักเท่าใดรักเพราะเขาตายกันเป้นล้านแต่ยิวตายแต่ 1,2000 นาย มันน้อยไปไหม มีการกล่าวหาว่าชาวยิว
ใช้เงินยัดใต้โต๊ะเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปรบในสงคราม ส่วนยิวที่ไปคือพวกยิวจนๆ


               ความรู้สึกเกลียดชังยิวทวีความรุนแรงขึ้นโดย สาธารณรัฐโซเวียตบาวาเรีย รัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่ปกครองนครมิวนิกนานสองสัปดาห์ก่อนจะถูกปราบโดย ทหารอาสาสมัครไฟรคอร์พส์ ผู้นำสาธารณรัฐโซเวียตบาวาเรียจำนวนมากเป็นยิว ทำให้นักโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านยิวเชื่อมโยงยิวเข้ากับคอมมิวนิสต์ (และดังนั้นจึงเป็นกบฏ)

              มีเพื่อนสมาชิกถามผมว่าแล้วทำไมไม่ไปจัดการกับตัวการใหญ่ละ จัดการแน่นอนครับ ชาวยิวในประเด็นความพ่ายแพ้ของเยอรมนีนั้นส่วนใหญ่ตกอยู่กับบุคคลที่มีชื่อ เสียง อย่าง คุร์ท ไอซเนอร์ ชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ผู้อาศัยอยู่ในนครมิวนิก เขาได้เกี่ยวกับสงครามซึ่งผิดกฎหมายนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1916 เป็นต้นมา นอกจากนี้เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการปฏิวัติ จนกระทั่เขาถูกลอบสังหารในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1919 สาธารณรัฐไวมาร์ภายใต้การนำของฟรีดริช อีเบิร์ต

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

# ทำบุญ พฤศจิกายน 2555

ร่วมงานบุญมหากุศลปล่อยชีวิตสัตวน้ำ(ที่จะถูกฆ่า) จำนวน ๕ ตัน ณ วัดโพสพผลเจริญ

















-------------------------------------------------------
ร่วมเป็นเจ้าภาพ ถวายมหาเจดีย์ทราย 84,000 กอง ถวายเป็นพุทธบูชา 













----------------------------------
 ถวายกฐินและผ้าป่าแก่วัดไม่มีเจ้าภาพพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 25 พ.ย. 2555 















 ----------------------------------------------
ร่วมสร้างพระไตรปิฎกบาลี-ไทย ฉบับภูมิพโลภิกขุ ประจำปี 2555 เนื่องในพุทธชยันตี 2600 ปี

















-------------------------------------------------
บุญสร้างพระมหาอุณาโลม สมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 8 ศอก


















-------------------------------------------------------
สร้างแม่พิมพ์หล่อองค์ปฐมทั่วประเทศ 















 ------------------------------------
จุลกฐินถวายผ้ากฐิน 18 วัด 









 --------------------------------
กฐินปีแรก-วัดถ้ำดาบส จ.ลำปาง 









------------------------------
บุญกฐินปีแรก วัดหน้าเขื่อน จ.ชัยภูมิ 


















 ------------------------------------------------------
กฐินตกค้างยังเหลืออีก ๔ วัด 



















-------------------------------------------------
โครงการสังฆทานยาทาง EMS ครั้งที่ 4 เพื่อวัดกันดารติดขอบชายแดนภาคเหนือโซนตะวันออก 459 วัด 








































วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ผลงานสาวไทย ในลีค Azerbaijan กับสโมสร Igtisadchi Baku [2012-2013]

İqtisadçı = ภาษาอาร์เซอร์ไบจัน = Igtisadchi = The Economist

Bakı = Baku ---> Name of the capital city of Azerbaijan


**********************************

Igtisadchi BAKU 2011/2012 - Team Song

**********************************
**********************************
01-กพ-2556
Azerbaijani Super League 2012/2013


Igtisadchi (3) - Baki-Azeryol (2)

Igtisadchi VS Baki-Azeryol 01 กพ. 2556 Set 1/5
Igtisadchi VS Baki-Azeryol 01 กพ. 2556 Set 2/5
Igtisadchi VS Baki-Azeryol 01 กพ. 2556 Set 3/5
Igtisadchi VS Baki-Azeryol 01 กพ. 2556 Set 4/5
Igtisadchi VS Baki-Azeryol 01 กพ. 2556 Set 5/5


28-มค-2556
Azerbaijani Super League 2012/2013 


Lokomotiv (2) - Igtisadchi Baku (3)

Lokomotiv VS Igtisadchi Baku 28 มค. 2556 Set 1/5
Lokomotiv VS Igtisadchi Baku 28 มค. 2556 Set 2/5

Lokomotiv VS Igtisadchi Baku 28 มค. 2556 Set 3/5
Lokomotiv VS Igtisadchi Baku 28 มค. 2556 Set 4/5
Lokomotiv VS Igtisadchi Baku 28 มค. 2556 Set 5/5

นุศรา ตบฝัง

11-มค-2556
Azerbaijani Super League 2012/2013 

Igtisadchi Baku (3) - Rabita Baku (2)

Igtisadchi Baku VS Rabita Baku 11 มค. 2556 Set 1 - Set 5


8-มค-2556
Azerbaijani Super League 2012/2013
Telekom (0) VS Igtisadchi (3)

Telekom VS Igtisadchi 8 มค. 2556 Set 1

Telekom VS Igtisadchi 8 มค. 2556 Set 2

Telekom VS Igtisadchi 8 มค. 2556 Set 3


23-ธค-2555
Azerbaijani Super League 2012/2013

Igtisadchi Baku (3) VS Lokomotiv Baladzhary (0)

Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baladzhary 23 ธค. 2555 Set 1 

Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baladzhary 23 ธค. 2555 Set 2 

Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baladzhary 23 ธค. 2555 Set 3 

พักเบรค ครึ่ง ฤดูกาล

30-พย-2555
Azerbaijani Super League 2012/2013
Baki-Azeryol (0) VS Igtisadchi Baku (3)



Baki-Azeryol VS Igtisadchi Baku 30-พย-2555 (Full Match)

ชนะนัดนี้ 0 ต่อ 3 Set ทำให้ ทีม Igtisadchi Baku นำเดี่ยวในลีค
ด้วยจำนวน Set ได้เสีย ดีกว่า Rabita Baku

27-พย-2555
Azerbaijani Super League 2012/2013
Igtisadchi Baku (3) VS Lokomotiv Baku (1)


Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baku 27-พย-55 Set 1

Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baku 27-พย-55 Set 2/1
Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baku 27-พย-55 Set 2/2

Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baku 27-พย-55 Set 3/1
Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baku 27-พย-55 Set 3/2


Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baku 27-พย-55 Set 4/1
Igtisadchi Baku VS Lokomotiv Baku 27-พย-55 Set 4/2

21-พย-2555
CEV Cup (วอลเลย์บอลลีกยุโรป ของ สหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรป)
Omicoka [Russia] (4 Golden Set)
VS  Igtisadchi BAKU (1)

เวปถ่ายทอดสด ล่ม แพ้ Golden Set ทำให้ไม่ผ่านเข้ารอบ CEV 8 ทีมสุดท้าย


13-พย-2555
CEV Cup (วอลเลย์บอลลีกยุโรป ของ สหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรป)
Igtisadchi BAKU (3) VS Omicoka [Russia] (1)


CEV Igtisadchi BAKU VS Omicoka [Russia] 13-พย-2555 (Full Match) 

Set 1/1: http://www.youtube.com/watch?v=EQqrQLB6zQU&feature=plcp


10-พย-2555
Azerbaijani Super League 2012/2013
Rabita Baku (3) VS Igtisadchi Baku (1)

เป็นแค่ภาพในข่าว เวปถ่ายทอดสด ล่ม 

7-พย-2555
Azerbaijani Super League 2012/2013
Igtisadchi Baku (3) VS Telecom
(0) 

Igtisadchi Baku VS Telecom 7 พย. 2555 Full Match 

3-พย-2555
Azerbaijani Super League 2012/2013
Igtisadchi Baku (3) VS Lokomotiv Bilejeri (0)


Igtisadchi Baku Vs. Lokomotiv Bilejeri 3-พย-2555 set 1-1
Igtisadchi Baku Vs. Lokomotiv Bilejeri 3-พย-2555 set 1-2

Igtisadchi Baku Vs. Lokomotiv Bilejeri 3-พย-2555 set 2-1
Igtisadchi Baku Vs. Lokomotiv Bilejeri 3-พย-2555 set 2-2

Igtisadchi Baku Vs. Lokomotiv Bilejeri 3-พย-2555 set 3-1
Igtisadchi Baku Vs. Lokomotiv Bilejeri 3-พย-2555 set 3-2

31-ตค-2555
CEV Cup (วอลเลย์บอลลีกยุโรป ของ สหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรป)
SLIEDRECHT Sport
[เนเธอร์แลนด์] (0) VS Igtisadchi BAKU (3)
เทปการแข่งขัน จากพี่ Kas Montri ถ่ายทอดสดจากโน๊ตบุ๊คส์ ผ่าน ยูสตรีม (ภาพไม่ชัดนัก)

SLIEDRECHT Sport VS Igtisadchi BAKU 31-ตค-2555 (เต็มแมทซ์)

23-ตค-2555
CEV Cup (วอลเลย์บอลลีกยุโรป ของ สหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรป)
Igtisadchi BAKU (3) VS SLIEDRECHT Sport (0) [เนเธอร์แลนด์]
(เทปการแข่งขันไม่ค่อยครบ)


Igtisadchi BAKU Vs SLIEDRECHT Sport 23-ตค-2555 ปลาย Set 1

Igtisadchi BAKU vs SLIEDRECHT Sport 23-ตค-2555 Set 2 part 1
Igtisadchi BAKU vs SLIEDRECHT Sport 23-ตค-2555 Set 2 part 2

Igtisadchi BAKU vs SLIEDRECHT Sport 3 23-ตค-2555 Set 3 (ไม่ครบ)

18-ตค-2555
Azerbaijani Super League 2012/2013
Igtisadchi Baku (3) VS Azerrail Baku VC (1)


Igtisadchi Baku Vs. Azerrail Baku VC Set 1 18-ตค-2555
Igtisadchi Baku Vs. Azerrail Baku VC Set 2 18-ตค-2555
Igtisadchi Baku Vs. Azerrail Baku VC Set 3 18-ตค-2555
Igtisadchi Baku Vs. Azerrail Baku VC Set 4 18-ตค-2555