วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

T-84 Oplot-M กองทัพบกไทย






















สื่อของยูเครนเปิดเผยภาพแรกของรถถัง T-84 Oplot ของกองทัพบกไทยในระหว่างที่คณะนายทหารของกองทัพบกไทยเข้าตรวจเยี่ยมการผลิต

"รถัง รุ่นนี้เป็นรถถังรุ่นใหม่ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย" นาย Sergei Gromov ผู้อำนวยการ Ukroboronproma ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลการส่งออกอาวุธของยูเครนให้ต่างชาติกล่าว โดยเขายังเพิ่มเติมอีกว่า รถถังทั้งหมดจำนวน 49 คันของกองทัพบกไทยจะถูกส่งมอบครบภายในสิ้นปี 2557 โดยสัญญามีมูลค่าทั้งสิ้น 200 ล้านเหรียญสหรัฐ


 จากภาพที่ปรากฏ พบว่า Oplot ของกองทัพบกไทยติดตั้งปืนหลัก KBA-3 ขนาด 125 มิลลิเมตร ปืนกล NVST ขนาด 12.7 มิลลิเมตร ระบบ Optronic แบบ Varta พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อพบแสงเลเซอร์ (Laser Warning Receiver) กล้องตรวจการ PNK-6 Panoramic Tank Sighting Complex นอกจากนั้นยังติดตั้งเกราะเสริม Nozh Explosive Reactive Armour และเกราะ Doublet อีกด้วย

ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่ารถถังในล็อตแรกจะส่งมอบให้กองทัพบกไทยเมื่อใด แต่จากข้อมูลที่เคยมีการเปิดเผยออกมา T-84 Oplot ในล็อตแรกจะมาถึงประเทศไทยในภายในปี 2556 นี้
 
 VDO Oplot-M

-----------------------------
เครดิต

 ป้อมปราการที่แข็งแกร่ง
OPLOT หมายถึง "ป้อมปราการ" เป็นรถถังหลักที่ผลิตจากประเทศยูเครน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติและประสบการณ์สำหรับการออกแบบสร้างรถถังมาอย่าง ยาวนาน รถถัง OPLOT มีคุณลักษณะครบทุกอย่างที่พึงจะมีสำหรับการเป็นรถถังยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจการยิงที่สูง ระบบการป้องกันตนเองที่เชื่อถือได้ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
จากการเปรียบเทียบ ข้อมูลสมรรถนะ และขีดความสามารถด้านต่างๆ ของรถถัง OPLOT กับรถถังชั้นแนวหน้าของโลก ที่หลายๆ คนบอกว่าดีที่สุดในโลก อาทิ รถถัง LEOPARD 2A7 หรือ รถถัง M1A2 ที่เป็นรุ่นล่าสุด จากข้อมูลที่หาได้จากแหล่งต่างๆ พบว่า รถถัง OPLOT นั้นมีสมรรถนะ และขีดความสามารถแทบจะไม่แตกต่างจากรถถังชั้นนำดังกล่าวเลย แต่รถถัง OPLOT มีราคาถูกกว่า.. เชื่อเถอะว่าเราได้ยุทโธปกรณ์ (รถถัง) ที่ดีที่สุดในราคาที่เราสามารถจ่ายได้มาป้องกันประเทศ

บางคนอาจจะไม่ชอบการออก แบบรถถังในสไตล์รัสเซีย โซเวียต ในที่นี้คือ ยูเครน มีข้อติตรงโน้น ตรงนี้บ้าง ซึ่งผมมองว่าเป็นความชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสมรรถนะหรือขีดความสามารถของมันที่จะนำไปใช้งานตามที่มันได้รับ การออกแบบและสร้างมา ซึ่งมีความสำคัญมากกว่า โปรดอย่าลืมว่ารถถังก็คือยุทโธปกรณ์ที่ใช้เพื่อการรบ ยามเมื่อมันเข้าสู่สนามรบ และเมื่อเผชิญหน้ากับข้าศึก สิ่งที่จะต้องใช้ก็คือ สมรรถนะและขีดความสามารถของมัน บวกกับความชำนาญในการใช้งานมันของกำลังพล รวมทั้งยุทธวิธีที่ใช้ในการรบ เพื่อจะทำให้ได้รับชัยชนะ นี่ต่างหากที่เราจะต้องให้ความสำคัญ..

 ปรัชญาการออกแบบที่แตกต่างกัน
การออกแบบรถถังทางฟาก รัสเซีย โซเวียต (ยูเครน) มีความแตกต่างกับการออกแบบของทางฟากตะวันตกเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว โดยทางตะวันตกจะเน้นเกราะที่หนักและหนาเพื่อการป้องกันอำนาจการยิงทำลาย และระบบต่างๆ ที่เน้นใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ฉะนั้นจะสังเกตว่ารถถังหลักของทางตะวันตกโดยส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักมากกว่ารถ ถังของทางฟากรัสเซีย.. ที่เกราะจะบางกว่า น้ำหนักจึงเบากว่า เพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ จึงมีคำถามตามมาว่า งั้นการป้องกันตัวก็คงจะด้อยลงไป มองดูเผินๆ ก็อาจจะคิดว่าระบบการป้องกันตัวสู้รถถังทางตะวันตกไม่ได้ แต่ไม่เลย เพราะทางฝั่งร้สเซีย.. เขาเน้นการวิจัยและพัฒนา ทั้งเกราะหลัก เกราะเสริม และเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด เพื่อใช้ในการป้องกันรถถัง โดยเฉพาะรถถัง OPLOT ถูกออกแบบโดยเน้นระบบ "โมดูล่าร์" ช่วยให้การสับเปลี่ยนเกราะหรืออุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ทำได้ง่าย ซึ่งจะทำให้มีความอ่อนตัวมากกว่า ในการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของรถถัง สำหรับการสนองตอบต่อภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงพัฒนาไปไม่หยุดยั้ง *เมื่อพูดถึงระบบป้องกันตัวของรถถัง OPLOT จะมีทั้งระบบเชิงรุก และเชิงรับ อย่างครบถ้วน ซึ่งจะไม่ลงในรายละเอียดจะกล่าวไว้พอเป็นสังเขปเท่านั้น ส่วนคุณลักษณะอื่นๆ ของรถถังทางฟากรัสเซีย.. มีดังนี้
-เน้นอำนาจการยิง
-ความง่ายในการใช้งานและการซ่อมบำรุงรักษา

 ข้อห่วงใยในการสนับสนุนชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับรถถัง OPLOT ของทางการยูเครน..
..สิ่งเหล่าจะต้อง ติดตามกันต่อไป แต่จากความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่กระทำในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันของฝ่ายความมั่นคงของทั้งสองประเทศ แสดงให้เห็นว่านี่เป็นพันธะสัญญาของความร่วมมือระหว่างชาติ ก็เชื่อมั่นได้ส่วนหนึ่งว่า ยุทโธปกรณ์ที่ทางเราได้จัดหามา จะได้รับการสนับสนุนด้านชิ้นส่วนอะไหล่หรือสายส่งกำลังบำรุงจากประเทศผู้ ผลิตเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถใช้ยุทโธปกรณ์ไปได้อย่างยาวนานต่อไป และจะดีกว่าถ้าหากในความร่วมมือมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้เราสามารถดูแลยุทโธปกรณ์ที่จัดหามาได้ด้วยตัวเอง เป็นการพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืน ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไปถึงความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายว่าจะเป็นอย่างไร..

การเปรียบเทียบข้อดีและข้อด้อย ของรถถังแต่ละแบบ
การเปรียบเทียบควรจะนำ ข้อมูลสมรรถนะ และขีดความสามารถในด้านต่างๆ ของรถถังแต่ละแบบมาอย่างครบถ้วน เพื่อทำการเปรียบเทียบ จะทำให้สามารถประเมินได้อย่างถูกต้องมากขึ้นว่ารถถังแต่ละแบบมีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ข้อสรุปที่ได้จากการเปรียบเทียบจะต้องอยู่ภายใต้กรอบคำถามข้อหลักๆ ดังนี้

1. ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ของรถถัง
2. ความเชื่อถือได้ของระบบป้องกันตัวเองของรถถัง หรือ ความอยู่รอดในสนามรบ
3. อำนาจการยิงของรถถัง รวมถึงประสิทธิภาพของระบบควบคุมการยิงของรถถัง
เพราะฉะนั้นการจะเปรียบ เทียบว่ารถถังแบบใดดีกว่าหรือด้อยกว่ากัน จึงต้องมาสรุปที่ข้อหลักดังกล่าวนี้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้สำหรับเป็นข้อพิจารณา..


ผมทิ้งท้ายไว้สักนิดเกี่ยวกับรถถัง OPLOT ที่จะเป็นรถถังหลักแบบใหม่ของกองทัพบกไทย "รถ ถัง OPLOT มีคุณลักษณะครบทุกอย่างที่พึงจะมี สำหรับการเป็นรถถังยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจการยิงที่สูง ระบบการป้องกันตนเองที่เชื่อถือได้ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย" คุณลักษณะเหล่านี้ที่มีอยู่แล้วอย่างครบถ้วนในรถถัง OPLOT ทำให้มันเปรียบประดุจดัง ป้อมปราการที่แข็งแกร่ง ที่พร้อมสำหรับการทำหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น