วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552

พัลลภแฉอีก ปีย์ต้นคิดเก็บ แม้ว

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน.กล่าวว่า การที่นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ระบุว่า ตนออกมาโวยวายเพราะไม่ได้รับตำแหน่ง ขอยืนยันว่าตนเป็นคนที่รักษาสัจจะเมื่อตกลงกันว่า การทำครั้งนี้ทุกคนต้องไม่หวังตำแหน่งและลาภยศใด ๆตนก็ถือตามนี้

สำหรับ เรื่องนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ถ้าตนต้องการตำแหน่งตนก็ออกมาโวยวายในช่วงนั้นแล้วจะปล่อยให้เนินนานมาถึง 3 ปีได้อย่างไร และถ้ามาพูดตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ถ้าใครไม่พูดพาดพิงถึงตน ตนจะหลีกเลี่ยงในการพูดถึงบุคคลอื่น เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า ตนจะไม่เคยพูดถึงชื่อนายปีย์ มาลากุลเจ้าของบ้านแม้แต่คำเดียว และวันนี้นายปีย์ มาพูดถึงตนทำให้ตนเสียหายจึงต้องพูดบ้างว่า นายปีย์ คิดอย่างไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และยังมีเรื่องอีกเยอะเกี่ยวกับตัว นายปีย์ ที่ตนจะนำมาเปิดเผย ทุกอย่างที่เขาทำนั้นเป็นลักษณะเจ้ากี้เจ้าการเชิญ คนนั้นคนนี้ไปกินข้าว ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ พูดถูกว่าไม่ได้เชิญตนไปกินข้าว แต่นายปีย์ เป็นคนเชิญในฐานะเจ้าของบ้าน แม้แต่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายปีย์ ก็เป็นคนเชิญมา

พล.อ.พัลลภ กล่าวด้วยว่า ครั้งหนึ่งก่อนการประชุมหารือกันที่บ้านสุขุมวิท ซึ่งมีตนกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายปีย์ นั่งอยูที่โต๊ะรับแขกภายในบ้าน ปรากฏว่า นายปีย์ ได้ถามตนว่า

ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หายไปได้ไหม

ตนก็เลยตอบไปว่า เป็นการยากทำไม่ได้ เพราะท่านมี รปภ.จำนวนมากคงจะต้องยิงกันเละจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่สามารถทำให้ตายได้

ทุกคนก็เงียบไม่พูดอะไร ซึ่งขณะนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ นิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแต่นั่งเฉยๆไม่ได้ออกความเห็นอะไร

ตน คิดว่าเราสามารถโกหกคนได้ทั้งโลก แต่ไม่สามารถโกหกตัวเองได้ นายปีย์ คงรู้ในใจตัวเองดี ตนยังมีเรื่องที่จะพูดอีกมาก ถึงคนชื่อปีย์ มาลากุล ที่ยังไม่อยากนำมาเปิดเผยในขณะนี้

เมื่อถามว่าขณะนี้ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธ แต่มีการหารือในการล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ จริงใช่หรือไม่

พล. อ.พัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น ตนจะมาพูดเล่นๆได้อย่างไร เพราะมีการกินข้าวหารือกันถึง 7 คน มีการพูดกันว่า จะต้องเล่นพ.ต.ท.ทักษิณ ทางกฎหมาย โดยมีนักกฏหมายเข้ามาร่วมประชุมด้วยในเรื่องของ กกต. ซึ่งเมื่อ กกต.ล้มการเลือกตั้งไม่สำเร็จ ก็มีการพูดถึงการรัฐประหาร มิเช่นนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ จะมาพูดได้อย่างไรว่า การทำครั้งนี้เราทำเพื่อประเทศชาติและสถาบัน คนที่มีตำแหน่งเป็นองคมนตรีจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะตัวเองมีตำแหน่งองคมนตรี โดยเฉพาะไปล็อบบี้ให้ กกต.ลาออก

เมื่อถามว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาโฟนอินเปิดเผยข้อเท็จจริง
พล. อ.พัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดา เรื่องแบบนี้ ถ้าเขาออกมารับว่าจริง เขาคงต้องไปโรงพยาบาลประสาท เพราะฉะนั้นเขารับไม่ได้ต้องปฏิเสธ
แต่การปฏิเสธของพล.อ.สุรยุทธ์ มันขัดกันโดยตลอดจากการประมวลข่าวอะไรต่างๆทุกคนก็รู้ดีว่าเป็นข้อเท็จจริง ดังนั้นคนที่มีความคิดทุกคนสามารถคิดได้ เรื่องแบบนี้ถ้าเขารับเขาต้องเป็นโรคประสาท ต้องไปโรงพยาบาลประสาท

และ การที่นายปีย์ บอกว่ามีการประชุมครั้งเดียวก็ไม่จริง ซึ่งจริงๆแล้วประชุมกัน 4 ครั้งและกินข้าวร่วมกันทุกครั้ง ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จะมาถึงก่อนเสมอมานั่งรอ จากนั้นก็มานั่งคุยกันที่โต๊ะกินข้าวในลักษณะกินข้าวไปคุยกันไป ตอนแรกเห็นปฏิเสธว่าไม่ได้ประชุม ก็ใช่เป็นการพูดกันไปกินกับไป เพราะการประชุมต้องมีวาระประชุม

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_newsonline.php?newsid=TVRJek9EUXdNRFkzTWc9PQ==

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น