วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

นปช. คนเสื้อแดง.. กับกลลูกโซ่สุดยอดกลยุทธซุนวู (โดยคุณปูนก)

ในกระบวนการต่อสู้นั้น ซุนวู นับว่าเป็นผู้ที่เป็นสุดยอดแห่งความเป็นปรมาจารย์ด้านกลศึก โดยหลากหลายกลศึกนั้นก็ยังคงใช้ได้มาจนถึงทุกวันนี้... การต่อสู้ของ นปช. คนเสื้อแดงในครั้งนี้ได้มีการวางแผนรัดกุมรอบคอบมาเป็นอย่างดี.. โดยใช้บทเรียนจากเมื่อครั้งสงกรานต์เลือดปีที่แล้วมาเป็นตัวอย่าง.. ก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้ แกนนำและคณะทำงานได้ร่วมกันทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพื่อให้การชุมนุมครั้งนี้ทุกอย่างออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด.. มีการเปิดปราศัยให้ความรู้ และสร้างฐานมวลชนโดยรอบอย่างจริงจัง และต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน.. มีการทดสอบการชุมนุมใหญ่ในที่ต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ.. มีการสร้างแนวร่วมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับมวลชน ขณะเดียวกันก็ทำลายความแข็งแกร่งของศัตรูลงไปด้วยในคราวเดียวกัน..

ในหลักพิชัยสงครามของซุนวูมีกลศึกชนิดหนึ่งเรียกว่า “กลลูกโซ่” กลยุทธ์นี้มีความหมายว่า “เมื่อกำลังศัตรูเข้มแข็งกว่าหลายเท่า จักปะทะด้วยมิได้เป็นอันขาด พึงใช้กลอุบายนานา ให้ศัตรูต่างถ่วงรั้งซึ่งกันและกันทำลายความแกร่งของศัตรู หรือร่วมมือกับพลังต่างๆทั้งมวล ร่วมกันโจมตี เพื่อขจัดความฮักเหิมของศัตรูไป”

การต่อสู้ครั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดง นปช. วางเป้าหมายเอาไว้ที่การยุบสภาของ นายกอภิสิทธิ์ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจในการบริหารประเทศนี้ พูดง่าย ๆ อย่างตรงไปตรงมาก็คือ ต้องการให้พรรคเพื่อไทย ขึ้นไปบริหารประเทศแทนพรรคประชาธิปัตย์น่ะเอง.. แม้จะเป็นเป้าหมายค่อนข้างต่ำ เพราะการเปลี่ยนรัฐบาลขณะที่ “อำนาจนอกรัฐธรรมนูญ” ยังมีอยู่เต็มที่นั้น ก็ยังคงไม่สามารถทำให้ประชาชนได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มาได้..แต่ถึงอย่างไรการค่อย ๆ บ่อนเซาะทำลายฐานกำลังอำนาจของฝ่ายเผด็จการ ก็คือชัยชนะที่เบื้องต้น เพื่อนำไปสู่ชัยชนะในเบื้องปลายนั่นเอง...ปัญหาอยู่ที่ว่าจะต้องดำเนินงานการต่อสู้ต่อไปอย่างไม่ทดท้อ จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับคืนมา...

ขณะนี้ทหารก็ไม่มีเอกภาพในการที่จะผนึกกันเป็นกองกำลังที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะปราบปรามประชาชนได้อีกต่อไป.. ทหารเรือก็วางตัวเป็นกลาง และพร้อมจะเข้าข้างประชาชนผู้ถูกปราบปราม... หทารบกก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ มีเพียงกลุ่ม “บูรพาพยัคฆ์ เท่านั้นที่พอจะเป็นกองกำลังให้กับอำนาจฝ่ายเผด็จการได้..แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถกระทำได้อย่างแท้จริง เพราะยังไม่สามารถมาหาความชอบธรรมในการล้อมปราบได้...และอีกทางหนึ่งก็คือ ไม่มี่ใครรู้แน่ว่า นปช. กลุ่มคนเสื้อแดง มีกองกำลังติดอาวุธของตนเองอยู่บ้างหรือไม่..

การยึดพื้นที่ส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ คือ บริเวณราชประสงค์นั้น เป็นแนวทางที่สร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ อย่างมาก.. รัฐบาลได้ตั้ง ศอ. รส. ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นกองบัญชาการเพื่อจะทำการปราบปรามประชาชนโดยเฉพาะ..แม้จะพยายามหาข้อกล่าวหาและข้ออ้างโดยการโจมตีใส่ร้ายพี่น้องประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยมากเพียงใด.. การชุมนุมของผู้คนก็มิได้ลดน้อยลง กลับยิ่งเพิ่มทวีขึ้นอย่างมากมาย..

การเคลื่อนขบวนไปทั่วทั้งกรุงเทพฯ ของคนเสื้อแดงถึง 2 ครั้งได้รับการต้อนรับตลอด 2 ข้างทาง โดยเป็นการออกมาให้กำลังใจของประชาชนทั่วทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ประชาชนไทยโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และพี่น้องต่างจังหวัดที่เป็นประชาชนคนธรรมดาๆ ไม่ได้มีอำนาจบารมี, หรือวาสนาใด ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ “ประชาชนชาวรากหญ้า” ทั้งหลายนั้น ต่างก็มีความรู้สึกอึดอัด และเหลือทนกับสภาพที่รัฐบาลอภิสิทธิ์บริหารประเทศอยู่ในขณะนี้อย่างเต็มที่แล้ว

พวกเขาแต่ละคนก็ปรารถนาจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยนำเอาประชาธิปไตยมาเป็นของประเทศนี้อย่างแท้จริงเสียที.. ระบบ 2 มาตรฐานจะต้องถูกทำลายลง.. อำนาจนอกรัฐธรรมนูญไม่ควรมีอยู่ในประเทศนี้...ประชาชนเท่านั้นที่ควรจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง.. นักการเมืองจะต้องเป็นผู้ที่มีหน้าที่รับใช้ประชาชน ไม่ใช่เป็นเจ้านายเหนือประชาชน.. แม้ว่าการยุบสภา ในครั้งนี้จะยังไม่ใช่การได้มาซึ่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริงก็ตาม..

แต่ทว่าการ “สะสมชัยชนะ” ก็เป็นหนทางที่เหมาะสม ที่ควรจะนำพาไปสู่การต่อสู้ในขั้นที่สูงขึ้น.. แม้รัฐบาลทั้งนายกอภิสิทธิ์ และนายสุเทพฯ ต่างก็ “กระ...นกระหือรือ” ที่จะทำการ “ล้อมปราบ” คนเสื้อแดงให้ได้ โดยจะใช้ 6 ตุลาคม 2519 มาเป็น โมเดล คือการสร้างภาพให้คนเสื้อแดงกลายเป็น โจรผู้ร้ายในสายตาของคนทั้งชาติ แต่ครั้งนี้ “กลลูกโซ่” ที่ ถูก นปช. นำมาใช้นั้น ก็สามารถสลายกองกำลังที่ อำนาจเผด็จการเคยมีอยู่ในอ่อนลงได้อย่างสิ้นเชิง..

และเมื่อกองกำลังอำนาจของเผด็จการอ่อนลง นั่นก็หมายความว่า “อำนาจการต่อรอง” ของฝ่ายประชาธิปไตยก็จะมีสูงขึ้นนั่นเอง... พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย เราได้ร่วมต่อสู้กันมา และเดินร่วมกันมาจนเกือบจะถึงปลายทางแห่งชัยชนะในเบื้องต้นแล้ว.. ขอให้พี่น้องทุกท่าน ร่วมกันเดินต่อไปอีกสักหน่อย แล้วเมื่อเราได้ชัยชนะแล้ว...เราทุกคนจะร่วมฉลองชัยด้วยกัน ทั้งประเทศ... ด้วยความสุขสดชื่นและมีหวัง


โดย คุณ ปูนนก Tue, 04/06/2010 - 11:23 | by poonnok
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/id/36419

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น