1. หากย้อนไปในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลช่วยเข้าโปรแกรมไอเอ็มเอฟ เห็นชัดว่ามีการกู้เงินมิยาซาว่ามาใช้กันชนิดที่ว่าไม่มีสติปัญญา มีการทุจริตและเงินไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ทำมาแล้ว เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นครั้งนี้ก็ไปกู้เงินมาทำแบบเดิมก็ไม่แปลกอะไร เพราะเป็นสิ่งที่เขาทำมาแล้ว และจะทำต่อ ซึ่งเขาถนัด แล้วจะทำอีก
2. การขึ้นภาษีในยามลำบาก เขาเรียกว่าเป็นการแก้ภาษีด้วยเครื่องคิดเลข ไม่ใช่สมองคิดแต่ใช้เครื่องคิดเลขคิด
3. เรากู้เงินเราเองในประเทศ ธนาคารในประเทศ ด้วยการไปออกบอนด์ออกอะไร ไม่ต้องมีเหตุมีผลอะไรมาก อันนี้มันทำแบบง่ายๆ ชุ่ยๆ ดังนั้นช่องทางที่จะคอร์รัปชั่นจึงมีมาก อย่างเรื่องรถเมล์ 4 พันคันไปอมพระมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อว่าไม่มีการคอร์รัปชั่น รัฐบาลนี้เขากู้เก่ง แล้วก็มีสื่อช่วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่พูดได้สวยแต่ทำไม่สวยหรอก
4. แบ๊งค์ชาติเราไปเข้าใจวัฒนธรรมไทยผิดไทยผิด ไปเลียนแบบต่างประเทศ วัฒนธรรมตะวันตกเป็นวัฒนธรรมลงทุน วัฒนธรรมไทยเป็นวัฒนธรรมลงออม การให้ดอกเบี้ยเงินออมต่ำเป็นการลงโทษคนออมเงิน แล้วไปเปิดช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากเท่ากับไปช่วยอุ้ม แบ๊งค์
5. ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรต เจ้าที่นี่มีตังค์เยอะ เจ้าที่กาต้าร์ก็มีตังค์เยอะ เจ้าที่ซาอุดีอาระเบียก็มีตังค์เยอะ ซึ่งมหาอำนาจทั้งหลายแวะมาหาเขาเพื่อขอตังค์เขาไปลงทุนทั้งนั้น แต่ของเราแทนที่จะมาคุยกับเขา ชวนไปลงทุนในประเทศไทยหน่อย กลับมาขอพบเขาเพื่อขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน คือจะเอาเขาไปเล่นการเมืองบ้าง เขาก็รำคาญ ไม่ให้พบ
6. ผมแวะเติมน้ำมันแล้วก็ค้างคืนหนึ่ง รัฐบาลมาเลเซียก็ส่งสันติบาล 15 คนมาอารักขาผม 24 ชั่วโมง
7. การค้าชายแดนของเรานี้ใหญ่โตมาก 4 ด้านของเรานี้ใหญ่โตมาก แต่ว่าไม่ได้ลงบัญชีเหมือนการค้ากรุงเทพเท่านั้นเอง ถ้าไม่ละเอียดอ่อนเรื่องชายแดนมีปัญหาแน่ 4 ประเทศนี้เขาหงุดหงิดกับเราทั้งนั้น
8. หัวใจสำคัญคือความน่าเชื่อถือ แต่วันนี้ประเทศไทยไม่มีอยู่เพราะ 1.ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น 2.ความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติเงียบ 3.ความไม่น่าเชื่อถือเกิดจากกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน
9. เวลานี้ทั่วโลกเขารำคาญประเทศไทย รัฐบาลนี้มาก เพราะว่าเขามีหลักสากลอยู่แล้วว่าการจะร่วมมือในการจับผู้ร้ายข้ามแดนต้อง ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่คดีของผมยิ่งกว่าการเมืองอีก ตัดสินโดยศาลการเมือง สอบสวนโดยผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองหลังการปฏิวัติรัฐประหารอย่างนี้ ใครจะไปเชื่อ
10. จ.อุดรฯเหมือนเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงเลย ถ้าผมกลับไปแล้วต้องมีบ้านที่อีสานสักที่ สงสัยผมต้องเลือก จ.อุดรฯแน่นอน แล้วให้คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปอยู่ จ.บุรีรัมย์ก็แล้วกัน
11. รัฐบาลมองเม็ดเงินนี้เป็นเม็ดเงินที่น่าสนใจ (ตอบคำถามทำไมรัฐบาลไม่ยอมจ่ายงบฯเอสเอ็มแอล?) ก็เลยเข้าไปเปลี่ยนชื่อมาเป็นโครงการชุมชนพอเพียง แต่แทนที่จะให้ประชาชนได้ตัดสินใจกลับเอาการตัดสินใจไปอยู่ที่รัฐบาล โดยผ่านกระทรวงมหาดไทยบ้าง ตอนนี้ข่าวว่าจะบังคับให้ซื้อเครื่องกรองน้ำอัจฉริยะ แล้วก็เครื่องโซลาร์เซลล์ เท่ากับงบประมาณที่ผมเรียกว่างบฯประชาชนนั้นมาเป็นงบฯรัฐเสียแล้ว ซึ่งปรัชญาคือให้ประชาชนเอาเงินอันน้อยนิดไปใช้แก้ปัญหาร่วมกัน แล้วนี่คุณจะไปรู้ปัญหาของเขาได้อย่างไร
12. วันนี้เสื้อแดงเราต้องเข้มแข็ง แล้วเวลามีเลือกตั้งเราก็แสดงพลังเหมือน จ.สกลนครและศรีสะเกษ มันจะเปลี่ยนทิศทางประเทศได้
13. อยากให้ทุกคนใจกว้างและอดทน ยิ้มรับกับระบบสองมาตรฐาน อีกสัก 2-3 ปีเท่านั้นแหละ
14. อยากให้ทุกฝ่ายบอกนายกฯว่าขอให้ใจกว้าง อย่ามองใครเป็นศัตรู เพราะใครก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับท่าน ใครเขาก็อยากเป็นเพื่อนกับนายกฯทั้งนั้นแหละ แต่นายกฯไปมองเขาเป็นศัตรูก็เลยได้ศัตรูเยอะ
15. ระวังโดนมนตร์ดำเหมือนที่ผมโดน (ตอบคำถาม นายอภิสิทธิ์ผูกเสี่ยวคนอีสานสำเร็จหรือไม่?)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น