แหล่งที่มา....
http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?newsid=1247470290&grpid=00&catid=00
เบื้องหลังเอ็มกรุ๊ปของ"สนธิ ลิ้มทองกุล"กู้เงินจากแบงก์กรุงไทย ถูกก.ล.ต.ฟ้องร่วมกันปลอมเอกสารในการทำสัญญาร่วมค้ำประกันการกู้พันล้าน ศาลนัดสืบจำเลยเป็นวันที่ 12 ต.ค.52
13 ปีที่แล้ว บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอนจิเนียริง จำกัด(มหาชน) หรือไออีซี ค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัท เดอะ เอ็มกรุ๊ป จำกัด บริษัทมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร
จะว่าไป เอ็มกรุ๊ป ก็คือ บริษัทแม่ของไออีซี นั่นเอง
ครั้ง นั้น เอ็มกรุ๊ปของนายสนธิ กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย 1,198 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2539 แต่ทางไออีซีไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวให้แก่ตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฯ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช ประธานกรรมการไออีซีใน ช่วงที่มีการค้ำประกันเงินกู้ออกมาปฏิเสธว่า คณะกรรมการไออีซีไม่เคยอนุมัติให้ค้ำประกันเงินกู้ให้เดอะ เอ็มกรุ๊ป แต่ผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งของไออีซีปลอมมติคณะกรรมการ ต่อมา นายสุรเดช มุขยางกูร กรรมการผู้อำนวยการไออีซี ได้ยอมรับกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ว่า ไออีซีค้ำประกันเงินกู้ให้เดอะ เอ็มกรุ๊ปจริง เดือน ธันวาคม ปี 2542 สำนักงาน ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษนายสุรเดช ต่อพนักงานสอบสวนโดยกล่าวหาว่า ปลอมหรือยินยอมให้มีการปลอมสำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัทไออีซี เพื่อลวงให้ธนาคารกรุงไทยหลงเชื่อว่า คณะกรรมการบริษัทไออีซีมีมติให้ทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้ในนามบริษัท ไออีซี เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์มาตรา 312 ระหว่างโทษจำคุก 5-10 ปี และยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารด้วย สำนักงาน ก.ล.ต. ในยุคที่ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นเลขาธิการ กลต. ตรวจสอบข้อมูลกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม จนกลางเดือนตุลาคม 2543 จึงได้กล่าวโทษ นาย สนธิ นายสุรเดช นางสาวเสาวลักษณ์ และนางสาวยุพิน อดีตกรรมการบริษัท ร่วมกันปลอมเอกสารในการทำสัญญาร่วมค้ำประกันการกู้จำนวน 1,073 ล้านบาทให้แก่บริษัท เดอะ เอ็ม กรุ๊ปจากธนาคารกรุงไทยโดยคณะกรรมการบริษัทแมเนเจอร์ มิได้รับทราบและมิได้มีการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินของบริษัทแมเนอร์เจอร์ฯ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์มาตรา 307, 311 312 ซึ่งแต่ละกระทง ระวางโทษจำคุก 5-10 ปีและยังมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และ 268 หลังสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวโทษ ในครั้งนั้นแล้ว เรื่องราวของนายสนธิและบริษัท เดอะเอ็มกรุ๊ปในคดีนี้ก็เงียบหายไป แต่จริง ๆ คดีนี้ค้างอยู่ในศาลอาญา เกือบ 10 ปี โดยคดีนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสุรเดช มุขยางกูร น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ และ น.ส.ยุพิน จันทนา อดีตกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากนายสนธิ กับพวกซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ร่วมกันลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัทแมเนเจอร์ ฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2539-30 เมษายน 2540 ล่าสุด ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลนัดสืบจำเลย แต่ทนายจำเลย ขอเลื่อนนัด โดยอ้างว่า นายสนธิอยู่ระหว่างพักรักษาอาการบาดเจ็บจากการผ่าตัดบาดแผลถูกลอบยิงที่ ศีรษะ ศาลสั่งเลื่อนคดี เป็นวันที่ 12 ตุลาคม 2552
คดี นี้ เดินไปได้อย่างล่าช้า ผ่านห้วงเวลาที่พลิกผันมาหลายครั้ง จากยุคที่นายสนธิ หรือ โกตั๊บ เชียร์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา จนมาถึงวันที่ความสัมพันธ์ระหว่าง โกตั๊บ กับ ทักษิณ ขาดสะบั้น กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต
จากวันที่ โกตั๊บ เคยเป็นลูกค้าชั้นดีของ ธนาคารกรุงไทย โดยมี วิโรจน์ นวลแข เป็นเพื่อนรักของ โกตั๊บ
ภายในปีนี้ หากสืบพยานฝ่ายจำเลยเสร็จสิ้นลง ศาลอาญาอาจ(จะ)มีคำพิพากษาลงมา
ข่าวดี หรือ ข่าวร้าย ยังต้องรอลุ้นกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ ใครหลาย ๆคน บอกว่า พฤติกรรมของ นายห้างทักษิณ กับ โกตั๊บ ละม้ายคล้ายกันยิ่งนัก
กุนซือใหญ่ ผู้เคยทำงานให้ทั้งสนธิ และ ทักษิณ กล่าวว่า พวกเขาอาจเคยทำกรรมร่วมกันมาในชาติก่อน ทำให้ต้องมาตามล้างกันในชาตินี้
กุน ซือใหญ่ ผู้หนึ่ง กล่าวว่า "สนธิ เป็นคนศึกษาประวัติศาสตร์ มองเกมมองคนทะลุปรุโปร่ง ส่วนทักษิณ เป็นคนฉลาด แต่พังเพราะบริวารเป็นพิษ"
ถ้า ทักษิณ มีคนเสื้อแดง และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เป็นผนังทองแดง สนธิ ก็มี พวกเสื้อเหลือง และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็น กำแพงเหล็ก
ถ้า ทักษิณ ใช้สโลแกน คิดใหม่ ทำใหม่ สนธิ ก็ใช้ การเมืองใหม่ เป็นธงนำความคิด
ถ้า ทักษิณ มีมูลนิธิไทยคม เสริมภาพลักษณ์เชิงบวก สนธิ ก็มี มูลนิธิ ไชย้ง ลิ้มทองกุล เป็นมูลนิธิเพื่อสังคม ซึ่ง 2 มูลนิธิ ก่อตั้งขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน
ถ้า ทักษิณ มีทนายคู่บุญคือ ชานนท์ สุวสิน สนธิ ก็มีทนายคู่ใจชื่อ สุวัตร อภัยภักดิ์
ถ้า ทักษิณ เป็นตัวแทนของระบอบประชาธิปไตยที่เน้นย้ำว่า "ผมมาจากการเลือกตั้ง" สนธิ คือผู้ประกาศตัว พิทักษ์สถาบันกษัตริย์ ต่อต้านระบบประธานาธิบดี
ถ้า ทักษิณ เคยเฉียดล้มละลาย สนธิ ก็ผ่านการล้มละลายมาแล้ว
ถ้า ทักษิณ ต้องคำพิพากษาจำคุก คดีที่ดินรัชดาฯ สนธิ ก็กำลังลุ้นระทึกกับคดีหลายสิบเรื่องในศาล
ถ้า ทักษิณ มี ชินแซทเทลไลท์ สนธิ ก็เกือบมี ลาวสตาร์ ไว้เชยชม
ถ้า ทักษิณ มีพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นที่ปรึกษาทางความคิดและไอเดียหลุดโลก สนธิ ก็มี ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นนักวิชาการผู้ขี่กระแสโลกาภิวัตน์เป็นคู่บารมี
ถ้า ทักษิณ เคยถูกลอบสังหารมาแล้ว 3 ครั้ง สนธิ ก็โดนมาแล้ว มากกว่า 3
ถ้า ทักษิณ ใช้บริการนอมินี ไม่ว่าจะเป็น ลูกสาวและลูกชายของตนเอง รวมถึงแก๊งค์คนรับใช้ เช่น นางสาวบุญชู เหรียญประดับ นางสาวดวงตา วงศ์ภักดี นายวิชัย ช่างเหล็ก ถือหุ้นมูลค่าหลายหมื่นล้าน แทนตัวเอง หรือ ที่เรียกว่า นอมินี สนธิ ก็เรียนรู้วิธีการนี้มาอย่างดี
และถ้าทักษิณมี ปมเรื่อง ชินคอร์ป เป็นจุดตาย บางที สนธิ อาจต้องลุ้นกับคดี ไออีซี จนนอนไม่หลับ !!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น