วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รวม...บทกลอนทั่วไป

กาพย์ยานีของนายผี

" ขุดเหล็กที่กลางเขา มาเคี่ยวเข้าจนเป็นยาง

ซัดยาอยู่คว้างคว้าง ก็เอาขึ้นประโคมตี

เป็นดาบอันคมเขียว แลเนื้อเหนียวกระเด็นดี

ชุบอาบจนปลาบปรี ดิเพราะได้ดุจดังใจ

เอาไม้ตะเคียนมา ให้เป็นด้ามก็ดูไกร

ผมพรายประจุไป ก็ประสาทแก่ศิษย์หา

นายจันทรจึงเอาใย แมลงมุมนั้นโยนมา

หงายคมจะให้คา ก็กลับขาดไปกลางคม

คืนแรมสิบสี่ค่ำ แลมืดทั่วบุรีรมย์

ควงวงเป็นกงกลม ก็สว่างดั่งกลางวัน

ชักออกมาทีไร เป็นได้เลือดอยู่ครามครัน

สมใจพนายจันทร ก็ลาจากอาจารย์มา

แสนพลพะม่าพัง กะทั่งกาญจนบุรีรา

ชาแสร้งให้อาสา ก็สำเร็จประสงค์สม

ตีพลพะม่าแตก เตลิดแล่นไปเพียงลม

คืนเข้ามาบังคม ก็บำเหน็จให้หนักหนา

ให้เป็นพระยาพล แลคุมพลโยธา

ให้รั้งอยู่รักษา สำหรับกาญจนบุรีเรือง"

กาพย์ชิ้นนี้อยู่ในหนังสือชื่อ "ความเปลี่ยนแปลง" ของนายผี
เขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าถึงความเป็นมาของตระกูล "พลจันทร์"

++++++++++++++

แด่กรรมกร


แต่เช้าจรดเย็นค่ำต้องตรากตรำด้วยน้ำตา

ผิดหรือกูเกิดมาแล้วถูกตราเป็นกรรมกร

กูทนถูกกดขี่นายทุนนี้เฝ้าเห่าหอน

เอาเปรียบกูทุกตอนแม้กินนอนคอยจี่ไช



ความรู้กูก็ต่ำนายทุนซ้ำคอยผลักไส

กูอยู่ด้วยจำใจหมดทางไปเพราะไร้เงิน

กูทุกข์กูเหนื่อยยากกูลำบากมันเที่ยวกลืน

กินนอนบนกองเงินด้วยส่วนเกินแรงงานกู



ลูกเมียกูยากไร้จะอดตายใครบ้างรู้

หวังรัฐคอยแลดูกลับค้ำชูพวกนายทุน

อนิจารัฐของชาติกลับเป็นทาสน้ำเงินขุน

ทรยศเพื่อนายทุนเพียงเกื้อหนุนพวกพ้องตัว



พวกกูอดตายแน่หมดทางแก้ด้วยมืดมัว

ตราบใดที่คนชั่วยังฝังตัวบนหลังกู

ทนทุกข์มาช้านานทนทรมานแสนอดสู

ต้องลุกขึ้นต่อสู้เพื่อเชิดชูโลกของคน...............


จิตร ภูมิศักดิ์ ............

+++++++++++++++++

สุภาษิตสอนหมา

สุภาษิตคำกลอน คิดสอนหมา
เห็นประพฤติ แผกผิด อนิจจา คนเขาด่า เจ้าก็ไม่ ตั้งใจฟัง
ทุกวันนี้ หมาพาล สันดานไพร่ มันทำให้ หมาไทย แพ้หมาหรั่ง
มีทางหนึ่ง พึงแก้ แน่ระวัง จงยับยั้ง ฟังกลอน สอนให้ดี

เวลาเห่า จงเห่า ใบตองสด จะยิ่งยศ น่ารัก สมศักดิ์ศรี
เห่าแล้วกัด น่องคน ผลทวี หมาเห่าชี หมากัด ทุกนัดไป
ถ้าคนกัด อย่ากัด อย่าฟัดตอบ เวลาเหนื่อย อย่าหอบ น้ำลายไหล
จงสู้กัน ตัวต่อตัว ชื่นหัวใจ อย่ารุมใคร ยกหมู่ ดูไม่งาม

เด็กตามหลัง ผู้ใหญ่ จงไล่กัด ถึงผู้ใหญ่ ก็จงฟัด อย่าขัดขาม
ยิ่งผู้ใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ แต่ในนาม อย่าไปคร้าม กัดเถิด จะเลิศลอย
ถ้ากัดไก่ ให้กัด บัดเดี๋ยวนั้น อย่าเหหัน หยอกแกล้ง ให้แรงถอย
เห็นก้างปลา อย่าหวง ห่วงตะบอย ก้างใหญ่น้อย แจกจ่าย เพื่อนได้กิน

เขาหุงข้าว แล้วคด ประชดเจ้า อย่าได้เข้าไปลอง ปองถวิล
เห็นข้าวเปลือก อย่าเสือก ไปยลยิน ไปต่างถิ่น ยกหาง วางศักดา
อย่าเป็นหมา สองราง อย่างคนค่อน จำคำสอน ต้องหลายราง สมอย่างหมา
หยุดกินขี้ ที่สิ้น คนนินทา อย่าไล่คว้า หางเองกัด ฟัดไม่ดี

เวลาขี้ นี่แนะเจ้า อย่ายกหาง อย่าเดินกลาง ถนน คนเสียดสี
เห็นมูลฝอย อย่าหมาย ถ่ายทันที จงถ่ายที่ พื้นสะอาด ลาดซีเมนต์
อย่าเป็นหมา มีปลอกคอ ขอให้คิด เป็นหมาวัด ชีวิต ได้ดีเด่น
เลียเข้าเถิด เลียนาย น้ำลายกระเด็น ให้นอนเล่น ในรางหญ้า ท่าเข้าการ

อนึ่งนั้น รักษาหัว อย่าให้เน่า เนื้อตัวเล่า อย่าให้เปื้อน ขี้เรื้อนผ่าน
แม้แต่หาง อย่าให้ด้วน ล้วนประจาน จงคิดอ่าน ตั้งหน้า รักษากาย
อย่าให้เขา ตีหัว จะมัวหมอง ให้ถูกแต่ เจ็กร้อง ฟ้องเสียหาย
ถ้าวิ่งหนี ดูทิศทาง แล้วย่างกราย อย่าคิดหมายเข้าจนตรอก จะชอกช้ำ

เวลาวิ่ง ก็รักษา มารยาท อย่าพรวดพราด ใส่ตีนหมา ให้น่าขำ
ยิ่งเดือนสิบ เดือนสิบสอง ให้ต้องจำ ถ้าจะทำ ก็ให้เลื่อน เดือนถัดไป
เมื่อเวลา ถูกน้ำร้อน อย่าร้องเอ๋ง อย่าเยี่ยวเบ่ง ทับศักดา รอยหมาไหน
จงทำตาม ภาษิต ประดิษฐ์ไว้ ต้องให้ใคร ด่ากราด “ชาติคน” เอย ฯ

..........................

โดย ......ตานี 2528
ที่มา: หนังสือสยามภาษิต โดย ชากร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น